ถวาย ดอกบัวอบแห้ง วัดมหาธาตุวชิรมงคล วัดสวยวิจิตรตระการตา เที่ยววัด เที่ยวกระบี่ได้เดินทางมา เที่ยวกระบี่ และได้เดินทางมา เที่ยววัดมหาธาตุวชิรมงคล ซึ่งเป็นวัดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 111ไร่ พระมหาธาตุเจดีย์ องค์ใหญ่ มีความสูงประมาณ 95 เมตร สีเหลืองทองอร่าม ได้รับอิทธิพลจาก มหาเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย แม้มองจากภายนอก สวยงามตระการตา และยิ่งใหญ่มาก
สำหรับการเดินทางมาที่จังหวัดกระบี่ ในครั้งนี้ ไร่หนึ่งอรุณ ได้เดินทางมาที่วัดมหาธาตุวชิรมงคล เพื่อถวายสังคทาน ทำบุญทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และได้ถวายดอกบัวอบแห้ง สักการะ เพื่อเป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ พระมหาธาตุเจดีย์ โดยมีพระอาจารย์ ของวัดแห่งนี้ รับมอบดอกบัวอบแห้ง และอนุญาตให้ได้ตั้งบูชา ณ พระมหาธาตุเจดีย์
นับเป็นความอิ่มเอมใจ อย่างที่สุด น้ำตาไหล เมื่อได้ถือ ดอกบัวอบแห้งในโถแก้ว ขอถวายเป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความรู้สึกคือความสุข น้ำตาแห่งความสุขที่มีค่ามากต่อจิตใจของเราชาวไร่หนึ่งอรุณ เป็นอย่างมาก วันนี้ เราจึงอยากจะแนะนำให้คนไทย ได้รู้จักสถานที่อันสวยงาม ยิ่งใหญ่ แห่งนี้
เที่ยวกระบี่ วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง)
วัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดบางโทง เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ที่บ้านบางโทง ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จากประวัติความเป็นมา วัดแห่งนี้ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2483 โดยเป็นที่ดินที่ได้รับการบริจาคจากนายเปล้า ทองศิริ นายมั่น เพ่งกิจ และนายน่วม ดำพันธ์ ซึ่งในขณะนั้น ชาวบ้านได้เรียกขานวัดแห่งนี้ว่า “วัดบางโทง” ซึ่งเป็นชื่อหมู่บ้านแห่งนี้
วัดบางโทงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2496 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 30 เมตร ยาว 70 เมตร และได้ทำพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2519 มีเจ้าอาวาสปกครองติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน 4 รูป
ในปี พ.ศ. 2545 ประชาชนและหน่วยงานจากหลากหลายภาคส่วน ของจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกันจัดทำ “โครงการสร้างพุทธสถาน และพระมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ” ขึ้นที่วัดแห่งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ในวันที่ 11 ม.ค. 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งขณะนั้นดำรงพระราชอิสริยยศ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ทรงวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์ และทรงเททองหล่อพระพุทธปฏิมาประจำพระชนวารในโครงการดังกล่าว
ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวัดบางโทงให้ใหม่ เป็น “วัดมหาธาตุวชิรมงคล” พร้อมทั้งให้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ “ม.ว.ก.” ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถ ขณะที่พระพุทธปฏิมาประจำพระชนมวารฯ ให้ใช้พระนามว่า “พระพุทธทักษิณชัยมงคล”
ด้วยความงามและความยิ่งใหญ่ ของวัดแห่งนี้ “พระมหาธาตุเจดีย์” ได้รับอิทธิพลจาก มหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ในเมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตั้งตระหง่านสูง 95 เมตร ถือเป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในภาคใต้ บริเวณโดยรอบองค์พระมหาธาตุเจดีย์มีทางเดิน หรือ “ระเบียงราย” เป็นทางเดินล้อมรอบองค์เจดีย์ทั้ง 4 ด้าน และมีพระพุทธรูป ประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก
ภายในพระมหาธาตุเจดีย์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันอันวิจิตร งดงาม ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ และตกแต่งด้วยลายกนกลายไทยอ่อนช้อยยิ่งนัก ตรงกลางของเจดีย์ จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปพระประธานองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวมากมาย ที่ต่างเดินทางแวะเวียนชมพุทธสถานแห่งนี้
บริเวณรอบๆวัดยังมี รูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร 9 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร อุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ภายในมีภาพเขียนพุทธประวัติ
นอกจากนี้ หากเราเดินมารอบๆวัด จะพบว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เราได้กราบไหว้บูชา อาทิเช่น พระพุทธโลกวิวรณะ ที่ตั้งอยู่ประตูทางเข้า เป็นพระพุทธรูปองค์ยืนที่ใหญ่มาก นอกจากนี้ยังมี พระอินทร์ ที่มีผู้คนเข้ามากราบไหว้ ขอพร กันมากมาย หรือแม้แต่ รูปปั้นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ที่เป็นที่ศักการะ ของทุกคนที่ได้มาที่วัดแห่งนี้ และยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ให้เราได้ศักการะบูชาในวัดแห่งนี้