แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 38
1
โรคกระจกตาอักเสบ (Keratitis) - แผลกระจกตา (Corneal ulcer)

กระจกตา (ตาดำ) อาจเกิดการอักเสบหรือเป็นแผลได้ เป็นภาวะที่พบได้เป็นครั้งคราวในคนทุกวัย บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้สายตาพิการหรือตาบอดได้

สาเหตุ

กระจกตาอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อ ได้แก่ เชื้อไวรัส (ที่พบบ่อย คือ เริม งูสวัด ไวรัสอะดิโน หัด) แบคทีเรีย (เช่น สเตรปโตค็อกคัส สแตฟีโลค็อกคัส สูโดโมแนส ริดสีดวงตา วัณโรค โรคเรื้อน ซิฟิลิส) เชื้อรา (เช่น แคนดิดา แอสเปอร์จิลลัส) เชื้อโปรโตซัว (เช่น acanthamoeba ซึ่งมีอยู่ในน้ำสกปรก)

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากภาวะตาแห้ง (มักเกิดจากต่อมน้ำตาสร้างน้ำตาไม่ได้ บางรายอาจเกิดจากภาวะผิดปกติของสารประกอบของน้ำตาที่ทำให้ระเหยง่าย หรือพบร่วมกับโรคภูมิต้านตนเอง เช่น เอสแอลอี โรคปวดข้อรูมาตอยด์) การถูกแสงแดดหรือแสงอัลตราไวโอเลต การระคายเคืองจากการใช้เลนส์สัมผัสหรือยาหยอดตา การแพ้ยาและกลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน ภาวะขนตาเก (ขนตาแยงเข้าด้านในถูถูกกระจกตา) ผิวกระจกตาแห้งเนื่องจากปิดหนังตาไม่มิด (เช่น อัมพาตเบลล์ ภาวะตาโปนในโรคคอพอกเป็นพิษ)

แผลกระจกตา มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือโปรโตซัว (เช่น acanthamoeba) ภายหลังกระจกตาได้รับบาดเจ็บ (เช่น ถูกใบหญ้าหรือพืชผักบาด สิ่งแปลกปลอมเข้าไปฝังที่กระจกตา) หรือจากการใช้เลนส์สัมผัสที่ไม่ถูกวิธี (เช่น ใส่เลนส์สัมผัสขณะนอนหลับ ใส่เลนส์สัมผัสที่แปดเปื้อนเชื้อ หรือแช่ในน้ำยาที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการฆ่าเชื้อ) หรือจากการติดเชื้อไวรัส (ที่สำคัญ คือ เริมและงูสวัด)

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากกระจกตามีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น การใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์นาน ๆ) โรคขาดวิตามินเอ หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคริดสีดวงตา เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ตาอักเสบจากเชื้อหนองใน และกระจกตาอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ

อาการ

ในระยะที่กระจกตามีการอักเสบหรือเป็นแผลใหม่ ๆ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตา เคืองตา หรือรู้สึกคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัว อาจมีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว

ภาวะแทรกซ้อน

กระจกตาอักเสบที่รุนแรงอาจกลายเป็นแผลกระจกตา ซึ่งถือว่าเป็นภาวะร้ายแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ เช่น

ในระยะที่มีการติดเชื้ออักเสบ เชื้อโรคอาจกินทะลุชั้นของกระจกตาเข้าไป ทำให้เกิดการอักเสบภายในลูกตาอาจกลายเป็นม่านตาอักเสบ มีหนองขังอยู่ในช่องลูกตาหน้า (hypopyon) ลูกตาอักเสบทั่วไป (panophthalmitis) จนตาเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดจากเชื้อรา มักจะมีความรุนแรงมาก

ในระยะที่การอักเสบทุเลาลงแล้ว แผลกระจกตาก็อาจกลายเป็นแผลเป็นลักษณะขุ่นขาว เรียกว่า ต้อลำไย (corneal leukoma) ทำให้ตามองเห็นไม่ถนัด ถ้าแผลเป็นมีขนาดใหญ่และอยู่ตรงกลางตาดำ บดบังสายตา ก็จะทำให้มองเห็นหรือสายตาพิการ

บางรายอาจกลายเป็นสายตาเอียง

การวินิจฉัย

แพทย์จะให้การวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มักตรวจพบอาการตาแดงที่บริเวณรอบ ๆ ตาดำ และขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว

ในรายที่มีแผลกระจกตา มักพบกระจกตาขุ่นหรือเป็นแผล อาจพบภาวะมีหนองขังอยู่ในช่องลูกตาหน้า (hypopyon) หนังตาบนบวม รูม่านตาหดเล็ก

แพทย์จะตรวจหาสาเหตุโดยใช้เครื่องมือส่องตรวจตา ทำการย้อมสีด้วยวิธี fluorescein staining และทำการตรวจหาเชื้อด้วยการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

แพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ให้ยาต้านไวรัสในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือให้ยาฆ่าเชื้อราในรายที่เกิดจากเชื้อรา

นอกจากนี้อาจต้องให้ยาหยอดตาอะโทรพีน ชนิด 1% เช่นเดียวกับการรักษาโรคม่านตาอักเสบ

ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนก็ให้การแก้ไข

ส่วนในรายที่การอักเสบทุเลาลงแล้ว แต่กลายเป็นแผลเป็น (ต้อลำไย) ทำให้สายตาพิการ แต่พบว่าประสาทตายังเป็นปกติดี อาจต้องทำการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา (corneal transplantation) โดยตัดเอาส่วนที่เป็นแผลเป็นออกไป แล้วเอากระจกตาที่ปกติของผู้บริจาคมาใส่แทน จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับเห็นเหมือนปกติได้ (การผ่าตัดเปลี่ยนตา ก็หมายถึงการผ่าตัดชนิดนี้ ไม่ใช่หมายถึงเปลี่ยนลูกตาทั้งลูก ซึ่งยังเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้)

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดตา น้ำตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัว มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกระจกตาอักเสบ/แผลกระจกตา ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ควรหาทางป้องกันแผลกระจกตา ดังนี้

    เมื่อพบว่าเป็นโรคเริมหรืองูสวัดที่บริเวณตา ให้รีบส่งไปโรงพยาบาลเพื่อให้ยาต้านไวรัสรักษาโดยเร็ว
    ระวังอย่าให้ถูกใบหญ้าหรือพืชผักบาดตา หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ถ้าทำงานที่เสี่ยงต่อปัญหานี้ ควรสวมหน้ากากหรือแว่นตาป้องกัน
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น
    ผู้ที่ใช้เลนส์สัมผัส ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการใส่เลนส์สัมผัสขณะนอนหลับ

ข้อแนะนำ

กระจกตาอักเสบหรือเป็นแผล จะมีอาการตาแดงหรือมีขี้ตาคล้ายเยื่อตาขาวอักเสบจากแบคทีเรียหรือไวรัส แต่จะมีอาการปวดตา เคืองตารุนแรงกว่า และมีอาการตาพร่ามัวร่วมด้วย ควรซักถามอาการให้ละเอียด และตรวจดูกระจกตาว่ามีลักษณะขุ่นมัวหรือเป็นแผลหรือไม่ หากมีประวัติและอาการที่ชวนสงสัยว่าเป็นแผลกระจกตา ควรส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด่วน

2
การทำความสะอาดช่องปากและฟัน สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันเด็ก

การดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือช่วงอายุใด ยิ่งสุขภาพช่องปากและฟันในเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองยิ่งต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะในช่วงวัยเด็ก ยังมีฟันน้ำนม ซึ่งฟันน้ำนมก็มีความสำคัญไม่แพ้กันกับฟันแท้เลย พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะมองว่า ฟันน้ำนม ไม่มีความสำคัญเพราะยังไง ฟันน้ำนมก็ต้องหลุดอยู่แล้ว เพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ นั่นถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะฟันน้ำนมมีความสำคัญมาก ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ เพราะฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็ก นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่แล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหารที่ดีได้ หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงตามไปด้วย


ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปลูกฝังให้บุตรหลาของท่าน หันมาเอาใจใส่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพฟันที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้น ว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะมองว่า ฟันน้ำนมไม่มีความสำคัญ จึงอาจจะปล่อยประละเลย ทำให้เด็กเกิดฟันผุและมีปัญหาฟันตามมาได้ จึงเป็นสาเหตุของการสูญเสียฟันตั้งแต่ในวัยเด็ก ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะพบได้บ่อย และต้องลงเอยด้วยการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันในเด็ก ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว แถมยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าเด็กได้ด้วย ทำให้เด็กมีใบหน้าที่เข้ารูปสวย น่ารักสมวัย และที่สำคัญการจัดฟันในเด็กนั้น ยังช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษษความสะอาดฟันด้วย

สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งต้องบอกว่า การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ในช่วงของการจัดฟันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหลายคนที่เข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบใดหรือช่วงอายุใด คงมักเจอกับปัญหาในระหว่างการทำความสะอาดฟัน โดยอาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึง หรือไม่สามารถแปรงฟันได้อย่างเต็มที่ เพราะมีข้อจำกัด นั่นก็คือ การมีเครื่องมือการจัดฟันติดตั้งอยู่ภายในช่องปากของเรา ซึ่งส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากและฟันลดลง

ซึ่งในการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่สอนให้ลูกแปรงฟันอย่างถูกวิธี และควรที่จะมีอุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาดฟัน เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดฟันได้อย่างเต็มที่และสะอาดทุกซอก ทุกมุม สำหรับวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟัน สำหรับเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ต้องบอกก่อนว่า การแปรงฟันให้สะอาด การใช้ไหมขัดฟัน เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการมีสุขภาพในช่องปากและฟันที่ดี  ไม่ว่าเด็กๆ จะเข้ารับการจัดฟันหรือไม่ก็ตาม แต่ในขณะที่เข้ารับการจัดฟัน อาจทำให้เด็กใช้ไหมขัดฟันได้ลำบาก เพราะอาจจะยังไม่รู้วิธีการใช้ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรซื้อสายร้อยไหมขัดฟัน  ซึ่งทำจากพลาสติก ด้านหนึ่งเป็นห่วงสำหรับร้อยไหมขัดฟัน อีกด้านหนึ่งมีลักษณะเป็นปลายแหลม เพื่อช่วยนำไหมขัดฟันเข้าทำความสะอาด

โดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน หรืออาจจะใช้ Super floss ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ประกอบด้วย ก้านพลาสติก ส่วนฟองน้ำ และส่วนไหมขัดฟันปกติ  ที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้ทำความสะอาดโดยใช้ส่วนก้านพลาสติกร้อยใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน หรือซอกฟันที่ติดเครื่องมือจัดฟัน แล้วใช้ส่วนฟองน้ำทำความสะอาดใต้สะพานฟัน ส่วนไหมขัดฟันปกติใช้ทำความสะอาดซอกฟันอื่นๆ


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การรักษาได้ผลที่ดีที่สุด และเพื่อสุขภาพในช่องปากที่ดี ผู้ปกครองควรพาเด็กๆ ไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน อย่างสม่ำเสมอ หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก ที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำขั้นตอนการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้บุตรหลานของท่านมีฟันที่สวยงามและมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง

3
การจัดฟันเด็ก ต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่

เด็กๆหลายคน มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน บางคนมีฟันที่มีความผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก ซึ่งถ้าหากบุตรหลานของท่านมีฟันซ้อนเก ในระดับปานกลาง หรือมาก ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาให้เด็กเข้ารับการถอนฟันเสียก่อน เพื่อให้ฟันได้เรียงตัวอย่างสวยงามและไม่มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในเรื่องของบดเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ก็จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการถอนฟันนั้น ก็มีข้อดีสำหรับผู้ที่มีปัญหา เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเรียงฟันให้เรียบและสวยงาม นอกจากนี้ เมื่อฟันเราเรียงเรียบสวยงามแล้ว ยังทำให้เราทำความสะอาดฟันง่ายขึ้นด้วย


อย่างไรก็ตาม การถอนฟันยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่ยื่นล้ำหน้าให้เข้ามาด้านใน ทำให้ฟันที่ยื่นดูยุบลง ส่งผลให้รูปใบหน้าเปลี่ยนแปลง สวยขึ้นด้วย และสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่อยากจะมีฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ก็ต้องปรึกษาทันตแพทย์เสียก่อน โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรให้ความสำคัญในข้อนี้ด้วย เพราะถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาฟันตามที่กล่าวมา ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อหาทางแก้ไข ซึ่งเด็กๆหลายคนอาจจะมีความกังวลว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว จะต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ ซึ่งหลายคนอาจจะกลัวการถอนฟัน เพราะอาจจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด ได้ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่าต้องเข้ารับการถอนฟันหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองได้พูดทำความเข้าใจกับเด็กถึงในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กหลายคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการถอนฟัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ปัญหาฟันของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษา พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อที่จะได้วางแผนในการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก


สำหรับในเรื่องของการเข้ารับการถอนฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันนั้น ทันตแพทย์จะทำการตรวจประเมินช่องปากและฟันในเบื้องต้น ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของฟันซ้อนเก ก็อาจจะพิจารณาให้เข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือบางคนอาจจะยิ้มแล้วฟันดูเต็มช่องปาก ซึ่งการเข้ารับการถอนฟันก็จะช่วยให้ยิ้มได้สวยขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งเด็กที่มีปัญหาฟันฝัง เช่น ฟันเขี้ยว ซึ่งฟันฝังบางกรณีก็ยากที่จะดึงลงมาสู่ช่องปากได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีฟันฝังลึกๆ ฟันฝังที่รากโค้งงอ หรือฟันฝังที่รากยึดติดกับกระดูก กรณีนี้ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้ถอนฟันออก


แต่อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการถอนฟัน ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการถอนฟันทุกคน เพราะเด็กบางคนอาจจะมีปัญหาฟันซ้อนเกเพียงเล็กน้อย ซึ่งทันตแพทย์สามารถแก้ไข ดึงฟันให้กลับมาเรียงตัวอย่างสวยงามได้ โดยไม่ต้องเข้ารับการถอนฟัน หรือถ้าหากเด็กบางคนมีใบหน้าค่อนข้างยุบ การเข้ารับการจัดฟันโดยไม่เข้ารับการถอนฟันก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดก็ได้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา หรืออาจจะศึกษาข้อมูลรายละเอียด รวมไปถึงขั้นตอนการเตรียมก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีความพร้อมและให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ในการรักษาได้อย่างเต็มที่และไม่มีความกังวล


อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกของเรา ก็มีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้ารับการรักษา  ทางเราอยากให้เด็กทุกคนมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในอนาคต

4
ซ่อมบำรุงอาคาร: ติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ควรใช้แบบไหน

ในปัจจุบันบ้านเรามีระบบอินเตอร์เน็ตใช้ได้เข้าทั่วถึง การสื่อสารและเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงพัฒนาล้ำหน้าตามไปด้วย ทำให้มีความสะดวกสบายากยิ่งขึ้น ทำให้การติดกล้องวงจรปิด สามารถส่งภาพวีดีโอไปยังโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านสัญญาณไวไฟ ทำให้การดูแลความปลอดภัยให้กับสถานที่ต่าง ๆ ครอบคลุมและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดกล้องวงจรปิดในบ้านของเรา

ที่สามารถดูผ่านมือถือได้ จึงเป็นทางเลือกความปลอดภัยที่ดีและทันสมัยที่สุดอย่างหนึ่งในยุคนี้ นอกจากนี้ กล้องวงจรปิด ถือเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งไม่ใช่แค่สถานที่สำคัญต่างๆเท่านั้น เพราะแม้แต่บ้านของเรา ก็ต้องการความปลอดภัยด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเป็นหูเป็นตา และคอยเตือนภัยในเวลาที่เราไม่อยู่บ้านแล้ว ภาพจากกล้องวงจรปิดยังสามารถใช้เป็นหลักฐานที่ดีเวลาเกิดคดีความต่างๆได้อีกด้วย

แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า กล้องวงจรปิดที่เหมาะสมกับบ้านของเรานั้น ควรจะเลือกใช้อย่างไรถึงจะมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกใช้กล้องวงจรปิดที่จะติดตั้งภายในบ้านว่าควรจะเลือกแบบไหนดี เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่ต้องการจะติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของเรา เมื่อเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ก็จะช่วยสร้างความสบายใจและดูแลบ้านให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับกล้องวงจรปิดนั้น ถือว่ามีประโยชน์มากต่อทรัพย์สินของเรา อย่างย้อยก็เพื่อความสบายใจ เมื่อเกิดเหตุที่เราไม่คาดฝัน หลักฐนจากกล้องวงจรปิด สามารถใช้เป้นหลักฐานได้อย่างดีเลยทีเดียว เพราะจะป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้น ตรวจสอบความปลอดภัยภายในบ้านได้ตลอดเวลา ลดอัตราการเกิดโจรกรรมในบ้าน เพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ ๆ เข้าไม่ถึง แถมยังช่วยลดค่าประกันภัยได้ 5-10% เลยทีเดียว โดยกล้องวงจรปิด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ Analog Camera , IP Camera ,P Camera (แบบไร้สาย) ซึ่งกล้องทั้ง 3 ประเภทนี้

ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีการติดตั้ง คุณภาพและความคมชัดของภาพที่ได้ และฟังก์ชันเทคโนโลยี ซึ่งจะมีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากว่า จะเลือกกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ส่วนใหญ่คนจะเลือกแบบไร้สาย เป็นกล้องวงจรปิดที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีฟังก์ชันที่หลากหลาย แถมยังติดตั้งเองได้ง่าย ทำงานรับ-ส่งข้อมูลด้วยสัญญาณ Wi-Fi ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถเชื่อมต่อและดูภาพจากกล้องแบบ Real Time ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ทุกเวลา โดยคุณภาพสัญญาณจะเสถียรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งรบกวนสัญญาณจากภายนอก เช่น ความหนาของผนังบ้าน

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงมีการสำรองข้อมูลลงใน Network Video Recorder (NVR) ของระบบปฏิบัติการต่างๆได้ ซึ่งยากต่อการขโมย/ดัก/เปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือ Hacker ครับ เพราะข้อมูลวิดีโอแบบ Digital Stream สามารถบันทึกและใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการอื่นๆได้หลากหลาย เช่น ถ้ามีโจรเข้ามาในบ้าน ระบบก็จะถ่ายภาพและแจ้งเตือนเข้าสู่โทรศัพท์ของเราทันที

นอกจากนี้ ยังสามารถซูมและหมุนได้รอบทิศทาง ผ่านทางคันบังคับหรือควบคุมผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถตรวจสอบความเป็นไปภายในบ้านได้ตลอดเวลา และสามารถตั้งกล้องให้หมุนได้เองอัตโนมัติตามจุดต่าง ๆ ที่กำหนดไว้อีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยดูแลบ้านให้กับเราได้ สร้างความสบายใจให้กับเจ้าของบ้านได้ เมื่อเราไม่อยู่บ้านนานๆ เพราะสามารถดูจากที่ไหนก็ได้

 หากสนใจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้เพราะเราเป็นผู้ให้บริการในเรื่องของความปลอดภัยของอาคารบ้านเรือน มีบริการติดตั้งระบบต่างๆภายในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าต้นกำลังและระบบจ่ายไฟฟ้าภายในอาคาร ระบบสุขาภิบาล และระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบปรับอากาศ และหมุนเวียนอากาศ ระบบงานบำรุงรักษาโครงสร้างอาคาร ระบบป้องกันเพลิง และระบบสื่อสาร และกล้องวงจรปิด แถมยังสามารถวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกันที่เป็นไปตามมาตรฐาน

เพื่อให้ผลการบริหารจัดการของอาคารที่มีประสิทธิภาพ และอยู่ในงบประมาณที่สมเหตุสมผล ภายใต้ความปลอดภัยเพื่อให้ลูกค้ามีความสบายใจ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด แถมยังมีบริการดูแล ซ่อมบำรุงให้ตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย

5
บริการด้านอาหาร: อาหารช่วยแก้ข้ออักเสบ

อาหารบำบัด เป็นการใช้อาหารช่วยในการรักษาโรคโดยการดัดแปลงอาหารธรรมดาให้เป็นอาหารที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ และจัดให้ถูกหลักโภชนาการ โดยมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือ ช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการของโรค รวมทั้ง ช่วยป้องกันการเกิดอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ได้รับการรักษาโรค อาหารมีประโยชน์และความสำคัญต่อผู้ป่วยมาก เพราะอาหารที่ผู้ป่วยได้รับขณะเจ็บป่วยมีส่วนทำให้อาการของโรคบรรเทาลง หรือกำเริบขึ้นได้ ดั้งนั้น การให้โภชนบำบัดที่เหมาะสม จะทำให้เกิดประโยชน์ช่วยป้องกันและแก้ไขภาวะโภชนาการของผู้ป่วย

สามารถปรับปริมาณสารอาหารบางอย่างให้อยู่ในระดับที่ร่างกายจะสามารถใช้ได้ และยังช่วยปรับน้ำหนักของผู้ป่วยให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้มี สุขภาพที่แข็งแรงบรรเทาและรักษาอาการของโรคที่เป็นอยู่ เช่น อาการข้ออักเสบที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ ซึ่งเกิดจากความทรุดโทรมของกระดูกอ่อนที่หุ้มข้อกระดูกค่อย ๆ หายไป ทำให้ข้อกระดูกเสียดสีกันเวลาเคลื่อนไหว จนเกิดอาการข้อยึด ส่งผลให้ปวดบริเวณข้อ ดังนั้น ทางเราจะมาพูดถึงอาหารบำบัดที่ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบได้ แถมยังดีต่อสุขภาพโดยรวมของเราอีกด้วย

อาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคนี้ ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารลักษณะเดียวกับผู้ควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเน้นเป็นอาหารไขมันต่ำ และเน้นให้รับประทานผักผลไม้เป็นหลัก เพราะคนอ้วนหรือคนที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ ต้องพยายามควบคุมน้ำหนักควบคู่กับการรักษาโรค อาจจะเน้นไปที่อาหารกลุ่มธัญพืชที่มีการขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง แป้งไม่ขัดขาว และผักใบเขียวต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน แคลเซียม โดเลต เหล็ก วิตามินซี ควรรับประทานให้ได้ทุกวัน นอกจากอาหารควบคุมน้ำหนักต่าง ๆ แล้ว ผู้ป่วยควรบริรับประทานปลาที่มีน้ำมันปลาด้วย เพราะกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในปลา มีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบของข้อกระดูก

ควรรับประทานปลาทีมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ได้แก่ ปลาแชลมอน ปลาซาดีนปลากระบอก ปลาทู ปลาดุก ปลาช่อน สามารถช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบในคนที่มีอาการปวดข้อได้ หรือในคนที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เมื่อรับประทานปลาเหล่านี้จะดีต่อสุขภาพมาก ต่อมาคือ ธัญพืชที่ไม่ขัดสีมากนัก ได้แก่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮสวีท จมูกข้าวสาลี ถั่วต่างๆ เพราะอาหารกลุ่มนี้มีไฟเบอร์สูง สารอาหารที่ดีต่อระบบขับถ่าย และมันสามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ รวมไปถึงควรเน้นรับประทานผักผลไม้ ที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ จะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และช่วยต่อสู้กับอาการข้ออักเสบได้ เช่น แอปเปิ้ล ที่อุดมไปสารต้านอนุมูลอิสระสูง อย่างสารไบโอฟลาโวนอยด์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แอปเปิ้ล

จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยภาวะเลือดเป็นกรดไขข้อรูมาติก โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเกาต์ ช่วยชะลอกระบวนการของข้อกระดูกอักเสบได้ ต่อมาคือ อาหารที่ประกอบไปด้วยขิงหรือน้ำขิงร้อนๆ ก็ถือว่าดีต่อสุขภาพมากเช่นเดียวกัน เพราะการรับประทานขิงสามารถลดอาการปวดข้อ อาการบวมลดลง ทั้งยังช่วยผู้ป่วยที่มีอาการกล้ามเนื้ออักเสบให้หายปวดอีกด้วย เพราะขิงจะช่วยสกัดฮอร์โมนที่เกี่ยวกับอาการอักเสบได้ เมื่อรับประทานขิงผงเป็นประจำทุกวันจะช่วยอาการข้อขัดของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมและบรรเทาอาการจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด ของการมีสุขภาพที่ดี หรือมีระบบโภชนาการที่ดีนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นการช่วยทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงห่างกลโรคได้ เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ยิ่งในตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง

ทางที่ดีที่สุดเราควรดูแลสุขภาพ ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัย เลือกรับประทานอาหารที่จะทำให้เราร่างกายแข็งแรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้เรา ห่างไกลจากโรคได้และยังช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

6
ฉนวนกันความร้อน ตัวช่วยป้องกันการควบแน่นในระบบปรับอากาศ

ขึ้นชื่อว่า “ฉนวนกันความร้อน” เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงโฟกัสประโยชน์หลัก ๆ ไปที่การป้องกันความร้อนกันอย่างเดียว เพื่อช่วยลดความร้อนสะสมภายในอาคาร สำนักงาน โรงงาน ฯลฯ จนทำให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

แต่ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ฉนวนกันความร้อน มีประโยชน์มากกว่านั้นอีก หนึ่งในนั้นก็คือ การช่วยป้องกันการควบแน่นในระบบปรับอากาศ ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในทุกสถานที่ที่ต้องเปิดแอร์ทำความเย็น

การควบแน่นในระบบปรับอากาศคืออะไร ทำไมจึงต้องติดฉนวนกันความร้อนเพื่อแก้ไข

การควบแน่น หมายถึง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารจากก๊าซกลายเป็นของเหลว ดังนั้น การควบแน่นในระบบปรับอากาศ จึงหมายถึงการที่อากาศภายในระบบปรับอากาศเปลี่ยนสถานะกลายเป็นหยดน้ำ อันเนื่องมาจากกความแตกต่างของอุณหภูมิในท่อลมปรับอากาศและบรรยากาศภายนอก

ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างความร้อนกับความเย็นจนเกิดปฏิกิริยากลั่นตัวเป็นหยดน้ำขึ้น โดยเมื่อท่อระบบปรับอากาศมีหยดน้ำจากการควบแน่นเกาะสะสมเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ ดังนี้

    ท่อระบบปรับอากาศเกิดความชื้น อาจเป็นสนิม ทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย และเร็วมากขึ้น จนนำไปสู่การสูญเสียค่าซ่อมบำรุงได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
    เมื่อท่อระบบปรับอากาศเสียหาย ต้องเปลี่ยน ต้องซ่อมบำรุง อาจทำให้ต้องปิดระบบปรับอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจได้ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ของการผลิต การขาย และความพึงพอใจของลูกค้า
    เมื่อท่อระบบปรับอากาศมีความชื้น อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา เชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นหลุดลอยออกมากับอากาศ ทำให้ทั่วทั้งสถานที่ไม่ปลอดภัย เมื่อสูดลมหายใจเข้าไปแล้ว อาจรับเอาเชื้อโรคเข้าไปจนทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งคนที่เสี่ยงเจ็บป่วยได้ก็เป็นทั้งพนักงานและลูกค้าด้วย

ฉนวนกันความร้อน ฉนวนคุณภาพที่ควบคุมการควบแน่นได้ดี

ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานระบบปรับอากาศ เพื่อบุในท่อปรับอากาศนั้น เป็นฉนวนกันความร้อนคุณภาพที่ผลิตขึ้นมาจากฉนวนใยแก้ว ปิดผิวด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ ยางนีโอพรีนสีดำ และแผ่นกลาสทิชชู เหมาะสำหรับใช้บุภายในท่อระบบปรับอากาศ ซึ่งไม่ได้แค่ช่วยป้องกันการสะสมความร้อนได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับเสียงดังที่มาตามท่อลมได้ด้วย อีกทั้งยังมีความหนาที่สามารถช่วยป้องกันการควบแน่นเป็นหยดน้ำได้ดี ทำให้ท่อปรับอากาศมีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นอกจากนั้นแล้ว ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานปรับอากาศก็ยังได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม และผ่านมาตรฐาน ASTM E84 และ BS476 ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ลุกติดลามไฟ จึงไม่เป็นชนวนก่อเหตุให้เกิดอัคคีภัย รวมถึงสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดเพลิงไหม้ให้น้อยลงได้ด้วย จึงถือเป็นฉนวนกันความร้อนที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานที่ที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ อาทิ สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน เป็นต้น

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดก็ตาม ที่กำลังมองหาฉนวนกันความร้อนสำหรับงานระบบปรับอากาศโดยเฉพาะ หรือต้องการฉนวนกันความร้อนสำหรับจุดสำคัญอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผนัง ห้องเครื่องจักร หรือว่าหลังคา

7
ก่อนติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงาน ควรเตรียมการอะไรบ้าง

ฉนวนกันความร้อนโรงงาน คือ หนึ่งในวัสดุสำคัญจำเป็นที่ผู้ประกอบการหลาย ๆ คนมองข้ามไป จึงทำให้เกิดปัญหาความร้อนสะสมจนต้นทุนการผลิตสูงสุด และมีปัญหาอื่น ๆ จุกจิกกวนใจเสมอ

ซึ่งหากวันนี้เราตัดสินใจได้แล้วว่าอยากติดฉนวนกันความร้อนเพื่อแก้ปัญหา ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ก็ควรทราบก่อนด้วยว่า ก่อนติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานนั้น ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งมีแนวทางในการเตรียมการหลัก ๆ ดังต่อไปนี้


1.ตรวจสอบพื้นที่ทางผ่านความร้อนให้แน่ชัด

การจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้ได้ผล ให้โรงงานแก้ไขปัญหาความร้อนสะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่ามีจุดใดภายในโรงงานบ้าง ที่เป็นทางผ่านให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามาได้ เช่น ผนัง หลังคา เป็นต้น

นอกจากนั้นก็ยังต้องตรวจสอบดูอีกว่า จุดใดในโรงงานบ้างที่เป็นแหล่งกำเนิดความร้อน เพื่อเข้าไปติดตั้งฉนวนให้ถูกจุด จะได้ควบคุมการแพร่กระจายความร้อนภายในโรงงานให้ดีขึ้น เช่น บริเวณห้องเครื่องจักร บริเวณท่อระบบขนส่งน้ำร้อนน้ำเย็น หรือบริเวณระบบท่อปรับอากาศ เป็นต้น


2.เลือกประเภทฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมมีคุณภาพ

ฉนวนกันความร้อนสำหรับงานหลังคา งานผนัง งานระบบท่อปรับอากาศ งานหุ้มท่อน้ำร้อนน้ำเย็น ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นคนละชนิดกัน ถ้าหากเราเลือกใช้ไม่ถูกประเภท ก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการกันความร้อน ตลอดจนอายุการใช้งานที่หดสั้นลงได้

ทั้งนี้ นอกจากประเภทของฉนวนกันความร้อนแล้ว ก็จำเป็นต้องเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนที่ได้คุณภาพมาตรฐานด้วย เพื่อมั่นใจได้ว่าจะได้ฉนวนที่ดีจริง เช่น ฉนวนกันความร้อนที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งด้วยเพราะมีประเภทของฉนวนคอรบคลุมทุกแบบ จึงทำให้ได้รับความนิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย


3.ประเมินสภาพแวดล้อมภายในพื้นที่ที่ต้องติดฉนวนกันความร้อน

ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะพื้นที่ที่จะต้องติดฉนวนกันความร้อนนั้น จะต้องได้รับการเตรียมการเอาไว้ ให้สามารถติดตั้งฉนวนได้ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเฉนวน โดยหากเราไม่ได้ดูแลจัดเตรียมพื้นที่ให้ดี ให้พร้อมสำหรับการติดตั้งฉนวนไว้ก่อน

นอกจากจะทำให้การติดตั้งเป็นไปอย่างลำบาก ล่าช้าแล้ว ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวฉนวนกันความร้อนได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของฉนวนโดยตรง


4.เตรียมมาตรการความปลอดภัยในการติดตั้งฉนวนโรงงาน

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หลังคา ผนังโรงงาน ห้องเครื่องจักร หรือบริเวณท่อระบบปรับอากาศ ท่อน้ำร้อนน้ำเย็น ฯลฯ ทุกพื้นที่ล้วนต้องได้รับการเตรียมการให้ปลอดภัยสำหรับการติดตั้งฉนวนกันความร้อนทั้งสิ้น เนื่องจากพื้นที่แต่ละจุดนั้นมีขนาดใหญ่ และมีความเสี่ยงในการติดตั้งหลายปัจจัย หากไม่ได้เตรียมมาตรการความปลอดภัยเอาไว้ ก็อาจเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตราย สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

5.ควรขอคำปรึกษาและดำเนินการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ

การติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการวางแผน และสำรวจหน้างานโดยละเอียด เพื่อให้ประเมินได้ว่า จะต้องติดตั้งฉนวนกันความร้อนจำนวนเท่าไร ตรงไหนบ้าง จึงจะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาความร้อนสะสมภายในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการติดตั้งฉนวนอุตสาหกรรม จะช่วยทำให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และควบคุมงบประมาณ ระยะเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือ หากเกิดปัญหาภายหลัง ก็ยังสามารถให้แก้ไขดูแลให้เรียบร้อยได้

การติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานนั้น จำเป็นจะต้องได้รับการเตรียมการก่อนล่วงหน้า ได้รับคำปรึกษาและวางแผนจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพราะทุกขั้นตอนล้วนสำคัญ และใช้ระยะเวลา ทำให้โรงงานอาจจะต้องปิดพื้นที่ หรือหยุดกระบวนการผลิตบางส่วนได้ ดังนั้น หากไม่รอบคอบ ไม่เตรียมให้พร้อม ก็อาจเสี่ยงเกิดความเสียหาย ล่าช้า และทำให้กระบวนการผลิตหยุดชะงัก จนเกิดความเสียหายในหลาย ๆ มิติต่อธุรกิจได้

8
อาชีพเสริม จากตะไคร้สมุนไพรไทยมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้

ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่รู้จักกันดีซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารไทยและยาแผนโบราณ กลิ่นหอมสดชื่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ตะไคร้เป็นส่วนผสมยอดนิยมในซุป ชาและแกง นอกจากการนำมาใช้ในการทำอาหารแล้ว ตะไคร้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย จึงทำให้ตะไคร้เป็นสมุนไพรหลักในตำรับยาสมุนไพรมีสรรพคุณทางยาหลายอย่างและยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้

ประโยชน์ต่อสุขภาพของตะไคร้
ตะไคร้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ตะไคร้มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยลดความเครียดจากออกซิเดชันและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม

ช่วยย่อยอาหาร
การดื่มชาตะไคร้สามารถบรรเทาปัญหาการย่อยอาหาร เช่น อาการท้องอืด ปวดท้อง และอาหารไม่ย่อย ช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อย ส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีขึ้น

ตะไคร้เป็นสมุนไพร ล้างพิษจากธรรมชาติ
ที่มีคุณสมบัติขับปัสสาวะซึ่งช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ผลการทำความสะอาดนี้ช่วยส่งเสริมสุขภาพไตและรักษาระดับของเหลวให้สมดุล

คุณสมบัติต้านการอักเสบ
สมุนไพรนี้ประกอบด้วยสารประกอบเช่น ซิตรัลและลิโมนีน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ตะไคร้อาจช่วยลดการอักเสบ จึงมีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบหรือปวดกล้ามเนื้อ

น้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอม มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
มีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อรา สามารถใช้ในการรักษาตามธรรมชาติเพื่อช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อที่ผิวหนังและรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง

เสริมภูมิคุ้มกัน
วิตามินซีและสารอาหารอื่นๆ ในระดับสูงในตะไคร้จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อต้านการติดเชื้อและโรคทั่วไปได้

บรรเทาความเครียดและความวิตกกังวล
กลิ่นหอมของตะไคร้หอมมักใช้ในการบำบัดด้วยกลิ่นหอมเพื่อบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวล การสูดดมน้ำมันตะไคร้หอมหรือดื่มชาตะไคร้หอมสามารถส่งเสริมการผ่อนคลายและปรับปรุงอารมณ์ได้

รองรับสุขภาพหัวใจ
ตะไคร้อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

วิธีใช้ตะไคร้
ชา:ต้มตะไคร้สดหรือแห้งในน้ำเพื่อทำชาที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
น้ำมันหอมระเหย:หยดน้ำมันตะไคร้หอมสักสองสามหยดลงในเครื่องกระจายกลิ่นเพื่อใช้เป็นกลิ่นหอมบำบัด หรือเจือจางด้วยน้ำมันพาหะสำหรับการนวด
การใช้ในการทำอาหาร:ใส่ตะไคร้ในซุป แกง และอาหารหมักเพื่อเพิ่มรสชาติ
ข้อควรระวัง
แม้ว่าตะไคร้จะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหรือระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ สตรีมีครรภ์และบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพบางประการควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนใช้

ตะไคร้ไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรที่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นยาสมุนไพรจากธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย การนำตะไคร้มาใช้ในชีวิตประจำวันสามารถช่วยเรื่องการย่อยอาหาร ลดการอักเสบ และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม เพลิดเพลินกับประโยชน์หลากหลายของตะไคร้และรับผลตอบแทนจากสมุนไพรไทยอันน่าทึ่งนี้

9
กาารขายของออนไลน์ เป็นอาชีพเสริม ควรมีอะไรบ้าง

การขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำได้จากที่บ้าน และมีโอกาสสร้างรายได้เสริมได้ดี อย่างไรก็ตาม การขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องมีการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรมีสำหรับการขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม:

1. สินค้าหรือบริการ:

เลือกสินค้าที่ใช่:
เลือกสินค้าที่คุณมีความรู้ความเข้าใจ หรือมีความสนใจเป็นพิเศษ
ศึกษาความต้องการของตลาด และเลือกสินค้าที่มีโอกาสขายได้
พิจารณาต้นทุน กำไร และความสามารถในการจัดหาสินค้า

สร้างความแตกต่าง:
หาสินค้าที่มีเอกลักษณ์ หรือสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
สร้างแบรนด์สินค้าของคุณเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความจดจำ

2. แพลตฟอร์มออนไลน์:

เลือกช่องทางที่เหมาะสม:
ศึกษาและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น Shopee, Lazada, Facebook Marketplace, Instagram Shopping หรือเว็บไซต์ส่วนตัว
พิจารณาค่าธรรมเนียม ฟีเจอร์ และความสะดวกในการใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์ม

สร้างร้านค้าออนไลน์:
สร้างร้านค้าออนไลน์ที่สวยงาม น่าเชื่อถือ และใช้งานง่าย
อัปโหลดรูปภาพสินค้าที่คมชัด และให้ข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วน

3. การตลาดออนไลน์:

สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์:
สร้างบัญชีโซเชียลมีเดียของร้านค้า และโพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ
ใช้ภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูง เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า

ทำการตลาดออนไลน์:
ใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ เช่น Facebook Ads หรือ Google Ads เพื่อโปรโมทร้านค้าและสินค้าของคุณ
สร้างโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า:
ตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าอย่างรวดเร็วและเป็นกันเอง
สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อให้กลับมาซื้อซ้ำ

4. การจัดการและการบริการ:

ระบบจัดการสต็อก:
มีระบบจัดการสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันสินค้าขาดสต็อก หรือสินค้าล้นสต็อก

ระบบขนส่ง:
เลือกบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ และมีบริการที่รวดเร็ว
แจ้งหมายเลขติดตามพัสดุให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้

บริการหลังการขาย:
มีนโยบายการคืนสินค้า หรือเปลี่ยนสินค้าที่ชัดเจน
ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเมื่อมีปัญหา หรือข้อสงสัย

5. ทักษะที่จำเป็น:

ทักษะการสื่อสาร:
สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย
สามารถตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ

ทักษะการตลาด:
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์
สามารถใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทักษะการจัดการ:
สามารถจัดการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างเป็นระบบ
สามารถจัดการสต็อกสินค้า การขนส่ง และการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ศึกษาข้อมูลและเรียนรู้เทคนิคการขายของออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ
ติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการ E-commerce
สร้างความแตกต่างให้กับร้านค้าของคุณ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
การเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริมได้

10
ตรวจโรคพยาธิไส้เดือน (Ascariasis)

โรคพยาธิไส้เดือนเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน (Ascaris lumbricoides) ซึ่งเป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่ง โดยการกินไข่ที่มีตัวอ่อนของพยาธิไส้เดือน* ระยะติดต่อเข้าไปอยูในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามอวัยวะที่ตัวพยาธิเข้าไปอาศัยอยู่

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และในเด็กมักมีอาการรุนแรงกว่า เนื่องจากมักจะมีพยาธิในลำไส้เป็นจำนวนมาก

โรคนี้พบมากทางภาคใต้ และอาจพบในภาคอื่น ๆ ได้พอประมาณ


*วงจรชีวิตของพยาธิไส้เดือน

1. พยาธิไส้เดือนตัวเต็มวัย (ตัวแก่) มีรูปร่างคล้ายไส้เดือนสีขาวยาวประมาณ 20-40 ซม. อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน ตัวเมียจะออกไข่วันละนับแสนฟอง ซึ่งจะออกมากับอุจจาระ หากคนถ่ายอุจจาระลงพื้นดินหรือในน้ำ ไข่จะอยู่ตามสิ่งแวดล้อม (น้ำ ดิน ทราย ฝุ่นละออง ผักที่ใส่ปุ๋ยทำจากอุจจาระคน)
2. ไข่ที่ไม่ได้รับการผสม แม้คนกินเข้าไปก็ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
3. ส่วนไข่ที่ได้รับการผสม จะเจริญเป็นตัวอ่อน (ในไข่) ในเวลา 10-21 วันซึ่งเป็นระยะติดต่อ
4. เมื่อคนกินอาหาร ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม หรืออมนิ้วมือที่เปื้อนไข่พยาธิดังกล่าว ก็จะกลืนเอาไข่พยาธิที่มีตัวอ่อนเข้าไปในลำไส้
5. ตัวอ่อนในไข่จะฟักออกมาเกาะอาศัยอยู่ตามลำไส้
6. ตัวอ่อนจะไชทะลุเยื่อเมือกของลำไส้เข้าไปตามระบบไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลืองเข้าสู่ปอด และเจริญต่อไปภายในปอดซึ่งใช้เวลา 10-14 วัน แล้วไชทะลุผ่านผนังถุงลม เคลื่อนตัวขึ้นไปตามหลอดลมจนถึงคอหอย
7. ตัวอ่อนจะถูกกลืนกลับลงไปในหลอดอาหารและลำไส้อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ตัวอ่อนก็จะเจริญเป็นตัวเต็มวัย และอาศัยอยู่ในลำไส้ ซึ่งสามารถมีชีวิตได้นานถึง 1-2 ปี


สาเหตุ

การติดต่อของโรคนี้ เกิดจากการกลืนไข่พยาธิไส้เดือนระยะติดต่อที่ปนเปื้อนอาหาร ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม หรือนิ้วมือ


อาการ

ถ้ามีพยาธิอยู่ในลำไส้จำนวนน้อย มักจะไม่มีอาการอะไร บางรายอาจถ่ายหรืออาเจียนเป็นตัวไส้เดือน

บางรายอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง โดยมักจะมีอาการหลังกินอาหารสัก 1/2 ชั่วโมง

บางรายอาจแสดงอาการลมพิษเรื้อรัง

ในรายที่มีพยาธิจำนวนมาก เด็กอาจมีอาการผอมแห้งแรงน้อย กินข้าวได้แต่ไม่อ้วนขึ้นหรือกลับผอมลง บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเดิน

บางรายมีลักษณะพุงโรก้นปอด ขาดอาหาร


ภาวะแทรกซ้อน

ในเด็กอาจเกิดภาวะขาดอาหาร (เช่น ขาดสารโปรตีน วิตามินเอ) เนื่องจากพยาธิไส้เดือนแย่งอาหารในลำไส้

บางครั้งพยาธิอาจรวมเป็นกระจุก ทำให้เกิดอาการอุดกั้นของลำไส้ มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนรุนแรง และคลำได้ก้อนที่หน้าท้อง

พยาธิตัวอ่อนที่เคลื่อนตัวผ่านปอด ถ้ามีจำนวนมากอาจทำให้เกิดอาการไอหรือปอดอักเสบ

บางครั้งพยาธิตัวแก่อาจเคลื่อนตัวเข้าไปอุดกั้นในท่อน้ำดี ทำให้มีอาการดีซ่าน และถุงน้ำดีอักเสบ, เข้าไปในอุดกั้นในท่อตับอ่อนทำให้ตับอ่อนอักเสบ, เข้าไปในตับทำให้เป็นฝีตับ, เข้าไปในรูของไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งอักเสบ

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อยมาก ได้แก่ เป็นแผลที่ลำไส้และมีเลือดออกรุนแรง ลำไส้ทะลุ ลำไส้เน่า ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการบอกเล่า หรือสังเกตเห็นตัวพยาธิที่ถ่ายหรืออาเจียนออกมา จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจพบไข่พยาธิไส้เดือนในอุจจาระ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ให้กินยาฆ่าพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล, อัลเบนดาโซล เป็นต้น

2. ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดในรายที่เป็นรุนแรง เช่น ลำไส้อุดกั้น ลำไส้ทะลุ ไส้ติ่งอักเสบ เป็นต้น


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น อาเจียนหรือถ่ายออกมาเป็นตัวพยาธิไส้เดือน, เด็กมีอาการปวดท้อง ท้องเดินบ่อย, เด็กกินอาหารเก่งแต่น้ำหนักไม่ขึ้น หรือผอมแห้งแรงน้อย พุงโรก้นปอด, เป็นลมพิษเรื้อรัง เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคพยาธิไส้เดือน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์
    มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียนรุนแรง ตาเหลืองตัวเหลือง หรือถ่ายเป็นเลือด
    มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเดินบ่อย โดยไม่ทราบสาเหตุ
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    ถ่ายอุจจาระในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ อย่าถ่ายอุจจาระลงพื้นดินหรือแม่น้ำลำคลอง
    ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหารและกินอาหารทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กควรกวดขันให้ล้างมือก่อนกินอาหาร และหลังกลับจากการเล่นที่สนามนอกบ้าน เนื่องเพราะเด็กมักเผลอดูดนิ้วมือเล่น ซึ่งอาจมีไข่พยาธิปนเปื้อนได้
    ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานทุกครั้ง ถ้าไม่มั่นใจควรกินผักที่ปรุงสุก และกินผลไม้ที่ปอกเปลือก
    ดื่มน้ำสุกหรือน้ำสะอาด และกินอาหารที่ปรุงสุกและร้อน

ข้อแนะนำ

เด็กที่มีอาการปวดท้องหรืออาเจียนบ่อย กินอาหารเก่งแต่น้ำหนักไม่ขึ้น หรือเป็นลมพิษเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน หรือสงสัยว่าอาจเป็นโรคพยาธิไส้เดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจดูไข่พยาธิในอุจจาระด้วยกล้องจุลทรรศน์

11
โรคบรูเซลโลซิส (Brucellosis)

บรูเซลโลซิส (brucellosis/undulant fever/Mediterranean fever)* เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดในสัตว์เลี้ยง (เช่น โค กระบือ แพะ แกะ อูฐ หมู) สุนัข สัตว์แทะ สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (วาฬ โลมา) สัตว์ป่า (กระบือป่า กระต่ายป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัขป่า) ซึ่งสามารถติดต่อมาสู่คนได้

โรคนี้พบได้ประปราย ซึ่งมักพบในกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (เช่น คนงานในโรงเลี้ยงสัตว์หรือโรงฆ่าสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล) หรือบริโภคเนื้อสัตว์และนมที่ติดเชื้อ

ในบ้านเรามีผู้รายงานผู้ป่วยโรคนี้จากการดื่มนมแพะ และการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงแพะ) ในจังหวัดราชบุรี (ปี พ.ศ.2546) สตูล (ปี พ.ศ.2546-2547) และกาญจนบุรี (ปี พ.ศ.2548 และ 2549)

* โรคนี้มีความร้ายแรง มีการนำเชื้อบลูเซลลาไปผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ เช่นเดียวกับแอนแทรกซ์

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บรูเซลลา (Brucella) ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ย่อย คนเราสามารถติดโรคจากสัตว์ได้หลายทาง ได้แก่

    สัมผัสสิ่งปนเปื้อน น้ำนม เลือด รก น้ำเมือกในอวัยวะเพศของสัตว์เพศเมีย น้ำเมือกตามตัวลูกสัตว์ที่คลอดออกมาใหม่ ๆ มูลหรือปัสสาวะสัตว์ เชื้อโรคจะเข้าทางบาดแผลหรือรอยถลอก
    กินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ หรือนมสัตว์ (รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ไอศกรีม เนยแข็ง) ที่ติดเชื้อ โดยไม่ได้ปรุงให้สุก หรือผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ
    หายใจสูดเอาฝุ่นหรือละอองของสิ่งคัดหลั่ง น้ำนมที่ปนเปื้อนเชื้อโรคในขณะรีดนมในคอกสัตว์
    ถูกเข็มฉีดวัคซีนป้องกันโรคแก่สัตว์ทิ่มแทง

ระยะฟักตัว ระบุได้ไม่ค่อยแน่นอน อาจเป็นตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึงนานกว่า 2 เดือน (ทั่วไปประมาณ 1-2 เดือน)

อาการ

มักมีอาการค่อยเป็นค่อยไปแบบเรื้อรังมากกว่าเฉียบพลัน อาการที่พบบ่อย คือ มีไข้สูง ๆ ต่ำ ๆ แบบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ ไม่แน่นอน (อาจมีไข้ 1-3 สัปดาห์ สลับกับไม่มีไข้ 1-3 วัน) ร่วมกับอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วไป มึนซึม หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ไอ เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด

ระยะการเจ็บป่วยอาจนานหลายวันหลายเดือน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนานเป็นปี หรือนานกว่า

ในรายที่ติดเชื้อทางอาหารการกิน อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูก ปวดหลัง ปวดข้อ

บางรายอาจติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการชัดเจนก็ได้

ภาวะแทรกซ้อน

เชื้อบรูเซลลาสามารถเข้ากระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะแทบทุกส่วน ก่อให้เกิดการอักเสบต่าง ๆ ขึ้น

ที่พบบ่อย คือ การอักเสบของกระดูกและข้อ อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ข้ออักเสบ (ซึ่งมีลักษณะปวดและบวม ที่บริเวณข้อเข่า สะโพก ข้อเท้า ข้อมือ เพียง 1 ข้อ หรือพร้อมกันหลายข้อ) การอักเสบที่กระดูกบริเวณเชิงกราน (sacroileitis) และข้อสันหลังอักเสบ (spondylitis)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น เช่น อัณฑะและท่อนำเชื้ออักเสบ (epididymo-orchitis) สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปลายประสาทเสื่อม (peripheral neuropathy) ตับอักเสบ ฝีตับ ถุงน้ำดีอักเสบ ปอดอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion) เยื่อตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis) ผื่นที่ผิวหนัง (erythema nodosum) เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ ได้แก่ เยี่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย มักเกิดกับลิ้นหัวใจเอออร์ติก (aortic valve) และต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจอย่างเร่งด่วน

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ส่วนใหญ่จะพบมีไข้ ตับโต ม้ามโต บางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึง ต่อมน้ำเหลืองโต ข้ออักเสบ (ข้อบวมและปวด) อัณฑะอักเสบ

ถ้าป่วยนานกว่า 3-6 เดือน จะพบอาการซูบผอมจากการขาดอาหาร

ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ หรือมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางจิตประสาท

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการทดสอบทางน้ำเหลือง (agglutination test, ELISA) การตรวจด้วยวิธี polymerase chain reaction (PCR) การเพาะเชื้อจากเลือด ไขกระดูก น้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural fluid) หรือน้ำในข้อ (synovial fluid) การตรวจเลือดมักพบเม็ดเลือดขาวต่ำ (โดยมีสัดส่วนของลิมโฟไซต์สูง) เกล็ดเลือดต่ำ เอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูงเล็กน้อย บางรายอาจต้องตรวจชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) เอกซเรย์ปอดและกระดูกสันหลัง

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

การรักษา ที่สำคัญคือให้ยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 2 ชนิดร่วมกัน เช่น ดอกซีไซคลีน ร่วมกับไรแฟมพิซิน นาน 6 สัปดาห์ ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ให้โคไตรม็อกซาโซลร่วมกับไรแฟมพิซิน หรืออะมิโนโกลโคไซด์ (เช่น เจนตาไมซิน)

ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาลให้ยาปฏิชีวนะร่วมกัน 3-4 ชนิด และให้นานกว่า 6 สัปดาห์

ในรายที่เป็นฝีตับ อาจต้องทำการระบายหนองออก

ในรายที่มีภาวะผิดปกติของลิ้นหัวใจอาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ

ผลการรักษา นับว่าได้ผลดี อาการไข้และอาการอื่น ๆ มักจะทุเลาหลังกินยาได้ 4-14 วัน แต่ถ้ากินยาไม่สม่ำเสมอ หรือหยุดยาก่อนกำหนดเวลา ก็อาจมีอาการกำเริบซ้ำได้อีกประมาณร้อยละ 30 โดยทั่วไปแพทย์จะติดตามผลการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี

ในรายที่มีเยื่อบุหัวใจอักเสบร่วมด้วยมักมีอัตราตายค่อนข้างสูง

ในรายที่ไม่ได้รับการรักษา มีอัตราตายโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้เรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ นานเป็นสัปดาห์ ๆ ร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือมีไข้ร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน (หลังกินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์หรือนมสัตว์ที่ไม่ได้ทำให้สุกหรือทำให้ปลอดเชื้อ) ซึ่งพบในผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนหรือสัตว์ป่วยด้วยโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคบรูเซลโลซิส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    กินยาปฏิชีวนะให้ครบตามระยะที่แพทย์กำหนด (อาจนานถึง 6 สัปดาห์) ถึงแม้อาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 4-14 วัน หรือหลังจากทุเลาแล้วกลับมีไข้กำเริบใหม่
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ หรือเจ็บหน้าอกมาก
    ข้ออักเสบ หรืออัณฑะอักเสบ
    มีอาการปวดตา ตามัว ตาแดง
    มีไข้ร่วมกับปวดท้อง ตาเหลืองตัวเหลือง
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบรูเซลโลซิสในสัตว์เลี้ยง (โค กระบือ แพะ แกะ หมู)

2. ถ้าสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงเป็นโรคนี้ เช่น สัตว์ในคอกมีไข้ ซึม เต้านมอักเสบ ข้อขาอักเสบ เยื่อหุ้มข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ ขาหลังเป็นอัมพาต สัตว์แท้งลูกบ่อย ๆ (โรคนี้มีชื่อเรียกว่า โรคแท้งติดต่อในสัตว์) เป็นหมัน ให้น้ำนมน้อยลง เป็นฝีตามที่ต่าง ๆ ลูกที่คลอดออกมาไม่แข็งแรง เป็นต้น ก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ ถ้าเป็นโรคนี้ก็ควรกำจัดทิ้ง

กรณีสัตว์แท้งลูก ควรเก็บลูกสัตว์ที่แท้งและรกส่งตรวจหาสาเหตุของโรค

3. หมั่นตรวจสอบการติดเชื้อในฝูงสัตว์เลี้ยงด้วยการตรวจเลือดและน้ำนม ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อ ควรทำการคัดแยกและทำลาย

4. ผู้ที่ทำงานในฟาร์ม (โดยเฉพาะฟาร์มแพะ) ควรป้องกันไม่ให้สัมผัสถูกเชื้อโรคโดยตรง เช่น

    ขณะทำงานควรสวมถุงมือยางชนิดหนาและทนทาน สวมหน้ากากปิดปากและจมูก ใส่ชุดกันเปื้อน
    ระวังอย่าให้เข็มฉีดยาหรือเจาะเลือดทิ่มตำ
    ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ภายหลังการสัมผัสถูกน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ สารคัดหลั่งจากอวัยวะสืบพันธุ์  เลือด น้ำเหลือง มูลสัตว์ รกและลูกสัตว์ที่แท้ง

5. ถ้าถูกเข็มฉีดวัคซีนโรคนี้ทิ่มต่ำเข้าโดยบังเอิญ ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทันที และควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ยาป้องกัน แพทย์จะให้กินดอกซีไซคลีน 100 มก. วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับไรแฟมพิซิน 600-900 มก. วันละ 1 ครั้ง นาน 21 วัน

ถ้าวัคซีนบังเอิญเข้าตาควรรีบล้างออก และควรกินยาป้องกันนาน 4-6 สัปดาห์

6. หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก และนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อ (พาสเจอร์ไรซ์) การต้ม หรือการทำให้สุกด้วยความร้อนวิธีอื่น ๆ

7. เมื่อมีผู้ป่วยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วย แต่ต้องระวังอย่าสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วย หนองและเลือดของผู้ป่วยที่ติดตามเสื้อผ้าหรือบริเวณต่าง ๆ ต้องผ่านการทำลายเชื้อ

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถึงแม้พบได้ไม่บ่อย แต่ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการไข้เรื้อรังร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือการอักเสบของอวัยวะหลายส่วน ก็ควรสงสัยว่าอาจเป็นโรคบรูเซลโลซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้

นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไม่ชัดเจน คือมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยไม่มีอาการอย่างอื่นชัดเจน อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคจิตประสาท (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือนอนไม่หลับร่วมด้วย)

ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว อย่าลืมถามประวัติการทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ หมู) หรือการบริโภคนมวัวหรือนมแพะที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก

2. โรคนี้ติดต่อจากสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ การติดจากคนสู่คนเกิดขึ้นได้น้อยมาก จะติดได้ก็โดยการสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วยเท่านั้น

12
การหายใจทางปากของเด็ก สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่ามีความสำคัญมาก ไม่แพ้กับปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายโดยรวม พ่อแม่ผู้ปกคองควรที่จะหมั่นสังเกตอาการ ถึงแม้ว่าเด็กจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีแล้วก็ตาม แต่การที่เด็กมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดูดนิ้ว หรือดูดขวดนม รวมไปถึงพฤติการหายใจทางปากด้วย แต่การที่เด็กนอนหายใจทางปาก ถือวาเป็นภาวะที่อันตราย เพราะโดยปกติ เด็กจะหายใจทางจมูกเป็นหลัก เมื่อมีภาวะใดที่หายใจทางจมูกไม่ได้ เด็กจึงต้องอ้าปากหายใจ ดังนั้น ภาวะที่ทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ อาจจะเกิดจากทางเดินหายใจอุดตัน จากน้ำมูกหรือเสมหะ ซึ่งภาวะการหายใจทางปากนั้น ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กด้วย


ซึ่งอาจจะทำให้ ฟันเก ฟันไม่สบกัน โครงหน้าสั้นได้ ซึ่งความผิดปกติของใบหน้านั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งเครื่องมือ EF line สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 – 15 ปี โดยเครื่องมือใน EF LINE มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า รวมไปถึง สามารถแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุของเด็ก สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของภาวะหายใจทางปากของเด็ก ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็กด้วยเครื่องมือ EF LINE ซึ่งเป้นการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันสำหรับเด็ก

ก่อนที่เราจะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหาด้วยเรื่องมือ EF LINE เราจะมาพูดถึงตัวเครื่องมือการจัดฟันก่อน เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอจจะยังไม่รู้จักตัวเครื่องมือ EF LINE ที่เป็นเครื่องมือการจัดฟันสำหรับการจัดฟันในเด็ก โดย EF LINE นั้น เป็นเครื่องมือการจัดฟันที่มีลักษณะเป็นชิ้นยาง มีไว้เพื่อให้เด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็กสวมใส่

ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของพฤติกรรมต่างๆที่ส่งผลต่อฟัน หากเรามานั่งพูดถึงสาเหตุของการสบฟันที่ผิดปกติในเด็กจำนวนมาก ที่เรามักพบเจอได้บ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากนิสัยต่างๆ เช่น การดูดนิ้ว การกลืนที่ผิดปกติ หรือ การหายใจทางปากจากปัญหาทางเดินหายใจ อาจจะส่งผลให้ฟันหน้าบนยื่น หรือไม่สบฟันได้ในที่สุด ทันตแพทย์จะมีเครื่องมือรูปแบบต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขนิสัยเหล่านี้ให้แก่เด็กได้นั่นเอง สำหรับปัญหาการหายใจทางปาก มักพบเมื่อมีการรบกวนระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ ต่อมทอลซินอักเสบ เป็นต้น มักพบว่าคนที่มีภาวะดังกล่าวจะมีอาการปากแห้งเสมอๆ นอนกรน ผลเสียที่เกิดขึ้นคือ ความสูงของใบหน้าด้านล่างมีค่ามากกว่าปกติ 

การสบฟันหน้าเปิด ขากรรไกรบนแคบกว่าปกติ การแก้ไขต้องพิจารณาสาเหตุที่มีความจำเป็นต้องหายใจทางปากอยู่เพราะความเคยชิน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อใส่เครื่องมือแก้ไข ถ้าเป็นในเด็ก ก็ใช้เครื่องมือ EF LINE ในการแก้ไขปัญหา สำหรับหลักการทำงานของเครื่องมือ EF line โดยปกติแล้วเด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือประมาณ 2 ชั่วโมง ในเวลากลางวัน และ 10 ชั่วโมง ในเวลาหลับตอนกลางคืน EF line จะทำการบังคับให้ขากรรไกรล่างอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับขากรรไกรบน เป็นผลให้เกิดการปรับตัวของกล้ามเนื้อต่างๆ โดยรอบ สู่สภาวะใหม่ที่สมดุล ซึ่งก็เป็นผลย้อนกลับไป เป็นการควบคุมตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรที่เปลี่ยนไปให้สมดุลด้วย เป็นลักษณะเสริมซึ่งกันและกันในตัว 


ดังนั้น จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างของกระดูกขากรรไกรในทิศทางที่เหมาะสม ช่วยให้มีการปรับตำแหน่งของฟัน โดยมีเหตุมาจากแรงกระทำของกล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยรอบได้ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะสังเกตเวลาที่เด็กสวมใส่เครื่องมือ ควรให้เด็กส่อยู่นิ่งๆ ไม่เคี้ยวเล่น ไม่พูด ปากปิดสนิทเพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบปาก  ควรดื่มน้ำมากเพิ่มความชุ่มชื้นในปาก หรือถ้าหากมีอาการระคายเคืองบางตำเเหน่ง ใช้ยาทาเเผลในปาก ทาตรงบริเวณที่เจ็บเพื่อบรรเทาอาการได้ วันเเรกๆของการใส่อาจไม่สบายนัก แต่ร่างการจะปรับตัวยอมรับและดีขึ้นเอง

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลีนิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพฟันที่ดีได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากเด็กๆทุกคน เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

13
การเตรียมตัวเมื่อเด็ก จะเข้าจัดฟันเด็ก ป้องกันการเกิดปัญหาในฟันของลูกน้อย 

การเตรียมตัวเมื่อลูกน้อยจะเข้ารับการจัดฟันเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อให้การรักษาราบรื่น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจตามมาได้ การเตรียมตัวที่ดีจะส่งผลต่อสุขภาพฟันของลูกในระยะยาว และยังช่วยให้เด็กมีความพร้อมทางด้านจิตใจด้วยค่ะ


1. การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพช่องปาก

ก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน เด็กจะต้องมีสุขภาพช่องปากที่ดีเยี่ยม ไม่มีปัญหาใด ๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการจัดฟันหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้

ตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด: ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการตรวจประเมินสภาพฟัน เหงือก ขากรรไกร การสบฟัน และโครงสร้างใบหน้าของลูก เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

เอกซเรย์ฟันและขากรรไกร: เป็นขั้นตอนสำคัญที่จำเป็นต้องทำเพื่อดูโครงสร้างฟันที่ยังไม่ขึ้นมา รากฟัน สภาพกระดูกขากรรไกร และหาความผิดปกติอื่นๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

เคลียร์ช่องปาก (Dental Clearance): นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก่อนเริ่มจัดฟัน ซึ่งอาจรวมถึง:

ขูดหินปูน: กำจัดคราบหินปูนและคราบจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่บนผิวฟันและขอบเหงือก เพื่อลดความเสี่ยงเหงือกอักเสบหลังติดเครื่องมือ

อุดฟันผุ: รักษาฟันผุทุกซี่ให้เรียบร้อย เพราะหากมีฟันผุขณะจัดฟัน อาจยากต่อการทำความสะอาดและทำให้ฟันผุลุกลามได้ง่ายขึ้น

ถอนฟัน (ถ้าจำเป็น): ในบางกรณีที่ทันตแพทย์ประเมินว่ามีฟันซ้อนเกมากเกินไป หรือพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการเรียงตัวของฟัน อาจจำเป็นต้องถอนฟันน้ำนมบางซี่ออกก่อน หรือในกรณีที่ฟันน้ำนมไม่หลุดตามธรรมชาติ เพื่อเปิดทางให้ฟันแท้ขึ้นได้อย่างเหมาะสม

รักษาโรคเหงือก: หากมีปัญหาเหงือกอักเสบ หรือมีเลือดออกง่าย ต้องรักษาให้หายก่อนเริ่มจัดฟัน

รักษารากฟัน (ถ้าจำเป็น): ในกรณีที่ฟันผุลึกไปถึงโพรงประสาทฟัน


2. การเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจและนิสัย

การจัดฟันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับเด็ก และต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมาก การเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจจะช่วยให้เด็กรู้สึกสบายใจและเข้าใจกระบวนการมากขึ้น

พูดคุยให้เด็กเข้าใจ: อธิบายให้ลูกฟังถึงเหตุผลที่ต้องจัดฟัน ประโยชน์ที่จะได้รับ และขั้นตอนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้เด็กรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจและลดความกังวล

บอกเล่าถึงความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้น: แจ้งให้ลูกทราบว่าอาจมีอาการปวดตึงฟันในช่วงแรกๆ หลังติดเครื่องมือหรือปรับเครื่องมือ รวมถึงอาจมีแผลในช่องปากบ้างเล็กน้อย แต่เป็นอาการชั่วคราวและสามารถบรรเทาได้

เน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการดูแลความสะอาด: อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าหลังติดเครื่องมือแล้ว การทำความสะอาดฟันจะยากขึ้นและต้องใส่ใจมากขึ้น เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ

สาธิตการทำความสะอาดล่วงหน้า: หากเป็นไปได้ ลองสอนลูกให้ใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน แปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน (หากมี) ล่วงหน้า เพื่อให้คุ้นเคย

สร้างทัศนคติเชิงบวก: ผู้ปกครองควรแสดงความเข้าใจและให้กำลังใจลูกเสมอ ไม่ควรกดดันหรือใช้คำพูดเชิงลบ


3. การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
เมื่อติดเครื่องมือจัดฟันแล้ว เด็กจะต้องปรับพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องมือเสียหายหรือหลุด

หลีกเลี่ยงอาหารเหนียว: เช่น หมากฝรั่ง ลูกอมเคี้ยวหนึบ คาราเมล เพราะจะติดเครื่องมือและทำให้หลุดได้ง่าย

หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง: เช่น น้ำแข็ง ถั่ว ลูกอมแข็ง ขนมปังกรอบแข็งๆ ข้าวโพดคั่ว หรือผลไม้ที่ต้องกัดตรงๆ (เช่น แอปเปิล ฝรั่ง) ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนรับประทาน

หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องกัดหรือดึง: เช่น เนื้อสัตว์ที่เหนียว หรือไก่ทอดที่ต้องกัดออกจากกระดูก

ช่วงแรกควรทานอาหารอ่อน: เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุป นม โยเกิร์ต ไข่ตุ๋น หรืออาหารนิ่มๆ เพื่อลดอาการเจ็บปวดจากการปรับตัวของฟัน

หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ: ฝึกให้ลูกหั่นอาหารเป็นชิ้นพอดีคำ และเคี้ยวด้วยฟันหลัง


4. การเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก
ก่อนถึงวันติดเครื่องมือจัดฟัน ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากที่จำเป็นสำหรับคนจัดฟันไว้ให้พร้อม

แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน (Orthodontic Toothbrush)

แปรงซอกฟัน (Interdental Brush) ขนาดต่างๆ

ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟัน (Super Floss หรือ Floss Threader)

ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ (ชนิดไม่มีแอลกอฮอล์)

ขี้ผึ้งจัดฟัน (Orthodontic Wax): ทันตแพทย์จะให้มา เพื่อใช้แปะบริเวณแบร็กเก็ตหรือลวดที่ทิ่มปาก/ระคายเคือง

กระเป๋า/ชุดทำความสะอาดฟันแบบพกพา: สำหรับพกไปโรงเรียนหรือนอกบ้าน

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การจัดฟันของลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่น ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และนำไปสู่ผลลัพธ์ของรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพฟันที่ดีในที่สุดค่ะ

14
บ้านติดรถไฟฟ้า ซีรีน ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ (Zerene Ratchaphruek-Chaengwattana)
เริ่มต้น 7.89 ลบ. - 10 ลบ.

ซีรีน ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ (Zerene Ratchaphruek-Chaengwattana)
ซีรีน ราชพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Oxygen Community" ที่มีการออกแบบโดยนำป่าเข้ามาไว้ในเมือง เกิดเป็นบ้านที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่ให้บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนในทุกๆวัน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             ซีรีน ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ (Zerene Ratchaphruek-Chaengwattana)
 เจ้าของโครงการ        ปริญสิริ
 แบรนด์ย่อย             ซีรีน
 ราคา                   เริ่มต้น 7.89 ลบ. - 10 ลบ.

 ประเภทบ้าน         บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล       บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ       26 ไร่ 1 งาน 66 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 แบบบ้านทั้งหมด     120 แบบ
  เนื้อที่บ้าน            ตั้งแต่ 50 ถึง 67 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย          ตั้งแต่ 185 ถึง 282 ตร.ม.
 จำนวนชั้น            2 ชั้น
 หน้ากว้าง            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     ตั้งแต่ 4 ถึง 5 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ     ตั้งแแต่ 2 ถึง 3 คัน
 สาธารณูปโภค      สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (GREENERY PARK, HEALTH CLUB)

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน         นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
 ที่ตั้ง         ถนนราชพฤกษ์ ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, สถานี(บางซื่อ - บางใหญ่)(บางรักน้อยท่าอิฐ)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(ปากเกร็ด)
ใกล้ทางด่วน (ทางด่วนขั้นที่ 2 บางโคล่-แจ้งวัฒนะ)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนราชพฤกษ์, ถนนชัยพฤกษ์)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. โรบินสัน ราชพฤกษ์ 300 ม.
2. โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า 3.2 กม.
3. โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 4.5 กม.
4. โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด 8 กม.
5. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี 8.7 กม.
6. โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล 10.2 กม.
7. เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 10.5 กม.
8. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ 11 กม.
9. เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต 11.3 กม.
10. โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ 15 กม.

15
บ้านโครงการใหม่ 2025: แกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา (Grand Britania Taweewattana)
เริ่มต้น 18 ลบ.

แกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา (Grand Britania Taweewattana)
แกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จากบริทาเนีย บ้านภายใต้รูปแบบ Modern British Luxury Style สัมผัสการอยู่อาศัย ที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถัน Craft Collection สัมผัสถึงงานศิลปะ Art & Craft พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ            แกรนด์ บริทาเนีย ทวีวัฒนา (Grand Britania Taweewattana)
 เจ้าของโครงการ      บริทาเนีย
 ราคา                   เริ่มต้น 18 ลบ.

 ประเภทบ้าน          บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล        บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ       46 ไร่ 1 งาน 37 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน          99 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด    4 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          ตั้งแต่ 106.63 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 240 ถึง 400 ตร.ม.
 จำนวนชั้น          2 ชั้น
 หน้ากว้าง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ     ตั้งแแต่ 3 ถึง 4 คัน
 สาธารณูปโภค      สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Pet Park, Golf putting green, Bicycle Parking), Internet-Wifi, Jogging Track, Co-working space, Home Automation

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน           บางแค, ตลิ่งชัน, ทวีวัฒนา, ภาษีเจริญ
 ที่ตั้ง           แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้ทางด่วน (ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนบรมราชชนนี, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. ม.กรุงเทพธนบุรี 1.5 กม.
2. รร.สาธิตกรุงเทพธนบุรี 2.4 กม.
3. รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี 4.8 กม.
4. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก 5 กม.
5. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 5.4 กม.
6. รร.อัสสัมชัญธนบุรี 5.8 กม.
7. ม.มหิดล ศาลายา 5.9 กม.
8. Makro ศาลายา 6.1 กม.
9. The Paseo Park กาญจนาฯ 6.4 กม.
10. Victoria Gardens | วิคตอเรีย การ์เด้นส์ 6.8 กม.
11. รร.สาธิตนานาชาติ ม.มหิดล 7 กม.
12. รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ 7.3 กม.
13. โรงเรียนเลิศหล้า 7.9 กม.
14. โรงพยาบาลศาลายา 9.2 กม.
15. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค 9.6 กม.
16. ไชน่าทาวน์ ศาลายา 9.7 กม.
17. Central ศาลายา 10.9 กม.
18. เดอะมอลล์ บางแค 11 กม.
19. โรงพยาบาลพุทธมณฑล 12.2 กม.

หน้า: [1] 2 3 ... 38































































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า