เว็บลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี ซื้อ-ขายออนไลน์ ใหม่-มือสอง
เว็บลงโฆษณาฟรี โพสฟรี รองรับ SEO ทุกหมวดหมู่ => เว็บลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 21 กรกฎาคม 2025, 17:13:52 น.
-
ดอกบัวในโถแก้ว: การคัดเลือกดอกไม้ ก่อนนำไปทำดอกไม้แห้ง (https://onearoon.com/)
การคัดเลือกดอกไม้ก่อนนำไปทำดอกไม้แห้งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากครับ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพ สีสัน และรูปทรงของดอกไม้แห้งที่คุณจะได้ออกมา หากเลือกดอกไม้ได้ดี การทำดอกไม้แห้งก็จะง่ายขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามน่าพอใจครับ
นี่คือเรื่องสำคัญที่ควรรู้ในการคัดเลือกดอกไม้ก่อนนำไปทำดอกไม้แห้ง:
1. เลือกชนิดของดอกไม้ที่เหมาะสม
ดอกไม้แต่ละชนิดมีปริมาณน้ำในกลีบดอกและก้านที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการแห้งและคงรูป
ดอกไม้ที่เหมาะกับการทำดอกไม้แห้ง (มีปริมาณน้ำน้อย กลีบไม่ช้ำง่าย):
ดอกกุหลาบ: เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะคงรูปทรงและสีสันได้ดีเยี่ยมเมื่อแห้ง
ไฮเดรนเยีย (Hydrangea): เมื่อแห้งแล้วจะให้ Texture คล้ายกระดาษ สวยงามและมีหลากหลายสี
ยิปโซฟิลล่า (Gypsophila/Baby's Breath): ดอกเล็กๆ พุ่มสวย เมื่อแห้งแล้วยังคงความโปร่งเบา
สแตติส (Statice): มีกลีบดอกคล้ายกระดาษอยู่แล้ว จึงแห้งง่ายและคงสีสันได้ดี
แคสเปีย (Caspea): คล้ายยิปโซ แต่ดอกเล็กกว่า มีความทนทาน
สุ่ย (Limonium): ดอกเล็กๆ คล้ายสแตติส แห้งแล้วยังคงรูปและสี
เบญจมาศ (Chrysanthemum): บางพันธุ์สามารถแห้งแล้วคงรูปทรงและสีได้ดี
ดอกหญ้าต่างๆ: เช่น หญ้าหางกระรอก หญ้าแพมพัส แห้งง่ายและให้ Texture ที่สวยงาม
ดอกไม้ที่ควรหลีกเลี่ยง (มีปริมาณน้ำมาก กลีบบาง ช้ำง่าย):
ดอกทานตะวัน, ทิวลิป, ลิลลี่, เบญจมาศบางพันธุ์, ซากุระ, ดอกไม้ที่มีกลีบบางและช้ำง่าย เพราะอาจเหี่ยว ย่น หรือร่วงโรยไม่สวยงามเมื่อแห้ง
2. เลือกช่วงเวลาที่ดอกไม้บานเหมาะสม
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดดอกไม้เพื่อนำมาทำดอกไม้แห้งคือ:
ดอกไม้ที่เริ่มบานเต็มที่ (Fully Bloomed but Not Over-Bloomed):
ควรเลือกดอกไม้ที่เพิ่งบานเต็มที่ หรือบานประมาณ 70-80% กำลังสวยงามที่สุด เพราะดอกไม้จะยังคงบานต่ออีกเล็กน้อยในขณะที่กำลังแห้ง
หากดอกไม้บานเต็มที่เกินไป หรือเริ่มโรยแล้ว กลีบดอกอาจจะร่วงง่าย หรือสีอาจจะจางลงมากเมื่อแห้ง
หากดอกไม้ยังตูมอยู่มาก อาจจะแห้งยากและไม่บานเต็มที่เมื่อแห้ง
3. สภาพของดอกไม้
ดอกไม้สดใหม่: ควรเลือกดอกไม้ที่สดใหม่ที่สุด ไม่มีรอยช้ำ ไม่มีโรคหรือแมลงกัดกิน เพราะรอยตำหนิเหล่านี้จะชัดเจนขึ้นเมื่อดอกไม้แห้ง
ไม่มีน้ำค้าง/ความชื้น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดอกไม้ไม่มีหยดน้ำค้าง หรือความชื้นเกาะอยู่บนกลีบดอกหรือใบ เพราะความชื้นจะทำให้ดอกไม้เน่าเสียก่อนที่จะแห้งสนิท
สีสันสดใส: เลือกดอกไม้ที่มีสีสันสดใสตามธรรมชาติ เพราะเมื่อแห้งแล้ว สีอาจจะจางลงเล็กน้อย หากเริ่มต้นจากดอกไม้ที่สีสดอยู่แล้ว ก็จะได้ดอกไม้แห้งที่มีสีสวยงามกว่า
4. การเตรียมดอกไม้เบื้องต้น
ก่อนนำไปเข้าสู่กระบวนการทำให้แห้ง ควรเตรียมดอกไม้ดังนี้:
ตัดแต่งก้าน: ตัดก้านดอกไม้ให้มีความยาวตามที่ต้องการ โดยปกติจะเหลือความยาวประมาณ 1-2 นิ้ว หรือตามความเหมาะสมกับวิธีการทำให้แห้ง
เด็ดใบส่วนเกินออก: เด็ดใบไม้ที่อยู่ส่วนล่างของก้านออกให้หมด โดยเฉพาะใบที่อาจจะจมอยู่ในน้ำ (หากเคยปักแจกันมาก่อน) เพื่อลดการคายน้ำและป้องกันการเน่าเสีย
ซับน้ำส่วนเกิน: หากดอกไม้มีความชื้นจากการล้างหรือน้ำค้าง ให้ซับน้ำส่วนเกินออกเบาๆ ด้วยกระดาษทิชชู
5. พิจารณาวิธีการทำให้แห้ง
ชนิดของดอกไม้และวิธีการทำให้แห้งมีความสัมพันธ์กัน
การแขวนกลับหัว (Air Drying): เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีก้านแข็งและกลีบหนา เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยีย ยิปโซ
การอบด้วยซิลิกาเจล (Silica Gel Drying): เหมาะสำหรับดอกไม้ที่ต้องการคงรูปทรงและสีสันไว้ให้มากที่สุด เช่น กุหลาบ ดอกไม้ที่มีกลีบละเอียดอ่อน
การทับในหนังสือ (Pressing): เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีกลีบบางและแบน เช่น ดอกไม้เล็กๆ ดอกหญ้า หรือกลีบดอกไม้
การใส่ใจในขั้นตอนการคัดเลือกดอกไม้เหล่านี้ จะช่วยให้คุณได้ดอกไม้แห้งที่สวยงาม คงทน และนำไปใช้ตกแต่งบ้านหรือทำของขวัญได้อย่างน่าประทับใจครับ