วิตามินดี3 เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีความสำคัญต่อร่างกายหลายประการ โดยเฉพาะการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ร่างกายสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองจากการสัมผัสแสงแดด แต่หากร่างกายได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ หรือมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายขาดวิตามินดี ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกระดูกและฟันได้
ประโยชน์ของวิตามินดี3 ต่อกระดูกและฟัน
ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
วิตามิน (https://www.xn--10-9riaxbg8d4daqf0cc6df5wpcua.com/วิตามิน)ดี3 มีหน้าที่สำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งแคลเซียมและฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง หากร่างกายขาดวิตามินดี3 อาจทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้น้อยลง จึงส่งผลให้กระดูกและฟันอ่อนแอลง เกิดโรคกระดูกพรุน และโรคกระดูกอ่อนได้
ช่วยสร้างกระดูกใหม่
วิตามินดี3 ยังช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ทดแทนกระดูกเก่าที่เสื่อมสภาพไป จึงช่วยให้กระดูกแข็งแรงและทนทานมากขึ้น
ช่วยซ่อมแซมกระดูกที่เสียหาย
วิตามินดี3 ยังช่วยซ่อมแซมกระดูกที่เสียหายจากการบาดเจ็บหรือโรคต่างๆ จึงช่วยป้องกันการเกิดภาวะกระดูกหักได้
แหล่งอาหารของวิตามินดี3
วิตามินดี3 พบได้ในอาหารบางชนิด เช่น
ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
ไข่แดง
เนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู
เห็ด
นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีการเติมวิตามินดี
นอกจากนี้ ร่างกายยังสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองจากการสัมผัสแสงแดด โดยแสงแดดช่วงเช้าและเย็น ประมาณ 10-30 นาที จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินดีได้เพียงพอต่อความต้องการ
วิธีป้องกันไม่ให้ขาดวิตามินดี3
การรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี3 เป็นประจำ ร่วมกับการสัมผัสแสงแดดอย่างเหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดวิตามินดี3 ส่งผลให้กระดูกและฟันแข็งแรงและทนทานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีแสงแดดน้อย หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคลำไส้อักเสบ โรคไต โรคตับ โรคมะเร็ง อาจจำเป็นต้องรับประทานวิตามินดี3 เสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดี3 เพียงพอต่อความต้องการ
ข้อควรระวังในการรับประทานวิตามินดี3
การรับประทานวิตามินดี3 มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ และไตวายได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานวิตามินดี3 ในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณวิตามินดี3 ที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไปคือ 15 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 71 ปีขึ้นไป คือ 20 ไมโครกรัมต่อวัน
สรุป
เลือกซื้อ วิตามินดี3 ยี่ห้อไหนดี (https://www.xn--10-9riaxbg8d4daqf0cc6df5wpcua.com/วิตามินดี3) เลือกวิตามินที่มีความสำคัญต่อกระดูกและฟันเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี3 เป็นประจำ และสัมผัสแสงแดดอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดี3 เพียงพอต่อความต้องการ และช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรงและทนทานมากขึ้น
(https://www.xn--10-9riaxbg8d4daqf0cc6df5wpcua.com/wp-content/uploads/21st-Century-D3-250-mcg-768x768.jpg)