แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 42
1
mobile expo 2024: แอปเปิล APPLE iPhone16 Pro Max (512GB)
56,900 บาท 

แอปเปิล APPLE iPhone16 Pro Max (512GB)
สุดรวดเร็ว สุดลื่นไหล นี่แหละ สัมผัสของตัวควบคุมกล้องแบบใหม่หมด
สวย สตรอง ในแบบไทเทเนียม
ควบคุมเต็มตัวด้วยตัวควบคุมกล้อง
Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps พร้อมเข้าโรงฉายได้เลย
การผสมเสียง เพราะเสียงของคุณมีความหมาย
กล้องอัลตร้าไวด์ 48MP ใหม่ ปฏิวัติทุกรายละเอียด
ชิป A18 Pro สามารถอย่างมากมายมหาศาล
Neural Engine แบบ 16-core ใหม่ทำให้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
GPU แบบ 6-core ใหม่ให้คุณได้สัมผัสกับประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น
CPU แบบ 6-core ใหม่ เร็วที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน สามารถจัดการกับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนโดยใช้พลังงานน้อยลง
แบนด์วิดท์หน่วยความจำระบบโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 20% สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่โดดเด่น
แสงสว่างครั้งใหม่ แห่งการเล่นเกม
เรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับชิป A17 Pro
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุด 4 ชั่วโมง หลุดโลกไปเลย

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น              แอปเปิล APPLE iPhone16 Pro Max (512GB)
   ราคากลาง           56,900 บาท
   จำนวนซิม
   แบบดีไซน์          จอสัมผัส
   สี                    Other(ไทเทเนียมทะเลทราย, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมดำ)
   ความถี่-เครือข่าย
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 149.6 x กว้าง 71.5 x หนา 8.25 มม., น้ำหนัก 199 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด       -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       N/A

จอแสดงผล
   ชนิดจอ            จอสัมผัส (Super Retina XDR OLED)
   ความละเอียด     6.9 นิ้ว, 1,320 x 2,868 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (48 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           A18 Pro
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)  6-core
   หน่วยความจำ (RAM)             0.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก             USB(USB‑C 3), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(7)
   ระบบรับส่งข้อความ                 -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต          3G, WiFi, 4G, 5G

2
หมอออนไลน์: เนื้องอกประสาทหู (Acoustic neuroma)

เนื้องอกประสาทหู (acoustic neuroma หรือ vestibular schwannoma) เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายที่กำเนิดมาจากเส้นประสาทหู (ส่วนที่มีชื่อว่า vestibular nerve) ซึ่งอยู่ติดชิดกับสมองภายในกะโหลกศีรษะ (บริเวณ cerebello-pontine angle) ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก แต่จัดว่าเป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยที่สุดของเนื้องอกของปลอกประสาท(nerve sheath)ภายในกะโหลกศีรษะ

เนื้องอกประสาทหูแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดไม่ทราบสาเหตุ (พบร้อยละ 95 ของเนื้องอกประสาทหู พบบ่อยในคนอายุ 40-60 ปี และมักเป็นข้างเดียว) และนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2 (neurofibromatosis type 2 หรือ bilateral vestibular schwannoma   ซึ่งพบร้อยละ 5 ของเนื้องอกประสาทหู พบบ่อยในคนอายุ 18-24 ปี วัยรุ่นตอนปลายและวัยหนุ่มสาวตอนต้น มักเป็น 2 ข้าง)


สาเหตุ

เนื้องอกประสาทหูชนิดไม่ทราบสาเหตุ เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน พบว่าบางรายอาจมีประวัติได้รับรังสีขนาดสูงที่บริเวณศีรษะและคอมาก่อน และมีความเชื่อว่าการอยู่ในที่ที่มีเสียงดังเป็นระยะยาวนานอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของโรคนี้

     ส่วนนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2  มีความสัมพันธ์กับความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งพบว่าเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบยีนเด่น (dominant gene) กล่าวคือ ถ้ามีบิดา หรือมารดา ท่านใดท่านหนึ่งเป็นโรคนี้ บุตรที่เกิดมามีโอกาสเป็นโรคนี้ถึงร้อยละ 50

อาการ

เนื้องอกประสาทหูมีลักษณะโตช้า ใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะเริ่มปรากฏอาการ อาการระยะแรก คือ หูตึง (ได้ยินเสียงได้น้อยลง) ซึ่งอาจค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละน้อย หรือเกิดขึ้นฉับพลันก็ได้ ร่วมกับมีเสียงดังรบกวนในหู และอาจมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน รู้สึกโคลงเคลงร่วมด้วย

     อาการหูตึงจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นแรมเดือนแรมปี จนกระทั่งก้อนเนื้องอกโตไปกดเบียดสมองและประสาทข้างเคียง ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า (ซึ่งมักจะเป็นเพียงซีกเดียว) และมีอาการชาที่ใบหน้าซีกเดียวกัน บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ


ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เกิดความผิดปกติอย่างถาวร เช่น หูตึง มีเสียงดังรบกวนในหู เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงและชา 

     ที่สำคัญ คือ เนื้องอกที่โตขึ้นสามารถกดเบียดสมอง ทำให้เกิดภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะ (มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน) และอาจกดก้านสมองซึ่งควบคุมสัญญาณชีพ (เช่น การหายใจ การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต) การกลืน และความรู้สึกตัว เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

          สำหรับโรคนิวโรไฟโบรมาโทซิสชนิดที่ 2 นอกจากภาวะดังกล่าวแล้ว ยังอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น ต้อกระจก ตาเหล่ ชัก แขนขาอ่อนแรง และเกิดเนื้องอกชนิดอื่น ๆ (เช่น meningioma, glioma,  schwannoma, astrocytoma) ในสมอง ไขสันหลัง และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย (เนื้องอกเหล่านี้ล้วนเป็นชนิดไม่ร้าย แต่ก็อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่มีโอกาสที่พบได้น้อยมาก)

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

     ในระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

     ในระยะหลัง (เมื่อก้อนเนื้องอกโตมากขึ้น) จะพบกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง (ยักคิ้ว หลับตา เม้มปากไม่ได้) แบบอัมพาตเบลล์ ใบหน้าชา ปฏิกิริยาสะท้อนของกระจกตา (corneal reflex) ลดลง (ตรวจโดยใช้สำลีเขี่ยที่กระจกตา ปฏิกิริยาในการหลับตาจะช้ากว่าปกติ) อาจพบอาการเดินเซ

     แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจสมรรถภาพของการได้ยิน (audiometry) การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

     ถ้าก้อนเล็กไม่มีการกดประสาทข้างเคียง ก็ให้การรักษาตามอาการ และติดตามอาการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ

            ถ้าก้อนเนื้องอกโตหรือกดประสาทหลายส่วน แพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก

            ถ้าพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด หรือมีขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ซม.) แพทย์จะทำการรักษาด้วยรังสี เช่น รังสีแกม (ซึ่งเรียกว่า "(gamma knife)", แสงโปรตอน (proton beam) เป็นต้น เพื่อยับยั้งไม่ให้เนื้องอกโตขึ้น ป้องกันการเกิดหูตึงถาวร และรักษาให้เส้นประสาทใบหน้าทำงานได้ปกติ (ป้องกันกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง)

     ผลการรักษา หากได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม ส่วนใหญ่ได้ผลดี แต่ถ้าได้รับการรักษาเมื่อก้อนเนื้องอกโตมากหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงก็มักได้ผลน้อย หรือไม่อาจป้องกันความพิการที่เกิดขึ้นได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น อาการหูตึง มีเสียงดังในหู วิงเวียน เห็นบ้านหมุน ควรปรึกษาแพทย์

           เมื่อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกประสาทหู ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หากมีอาการบ้านหมุน เดินเซหรือรู้สึกโคลงเคลง เวลาเดินควรใช้ไม้เท้าช่วยป้องกันไม่ให้หกล้ม, หลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น, ถ้าตื่นลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางดึกควรเปิดไฟในห้องให้สว่าง

       
ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สงสัยมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก กลืนลำบาก ตามัว เดินเซ กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง แขนขาชาหรืออ่อนแรง ชัก เป็นต้น
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และส่วนน้อยเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม โดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

ข้อแนะนำ

1. เนื้องอกประสาทหู แม้ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (ไม่ใช่มะเร็ง) แต่อาจค่อย ๆ โตขึ้นไปกดเบียดสมองและเส้นประสาทต่าง ๆ ทำให้เกิดความพิการทางหู ตา แขน ขา และการทรงตัว สูญเสียคุณภาพชีวิต เป็นภาระในการดูแลรักษา และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการที่น่าสงสัย เช่น มีอาการหูตึง มีเสียงดังในหู วิงเวียน เห็นบ้านหมุน เดินเซ อย่างต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

2. โรคนี้ในระยะแรกจะมีอาการคล้ายหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน แต่จะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ นานเป็นแรมเดือนแรมปี ดังนั้น ถ้าให้การดูแลรักษาแบบหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ


3

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







4
 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



5
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ 2024: โตโยต้า Hilux ใหม่ ! จะมาพร้อมกับขุมพลังดีเซลไฮบริด

ในงานโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต สนามสุดท้าย ปี 2023 ที่ผ่านมามีการนำเอารถกระบะไฮลักซ์ที่มาพร้อมทางเลือกของระบบส่งกำลังอันหลากหลาย(Multiple Pathway)มาจัดแสดงโชว์ และให้สื่อมวลชนส่วนหนึ่งได้ขับทดสอบ ซึ่งแต่ละคันยังเป็นแค่รถกระบะคอนเซปต์ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาสู่ตัวถังใหม่ต่อไป

รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ ที่นำมาแสดงและให้สื่อฯ บางส่วนลองขับกันนั้นมีทั้งหมด 3 แบบ 3 พลังงานขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน

คันแรกรุ่น HIlux Revo e เป็นการนำกระบะหัวเดี่ยวตอนเดียวมาปรับเปลี่ยนให้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้งเคลมไว้ที่ 300 กม. แต่ไม่รองรับการบรรทุกหนัก

คันที่สองรุ่น Hilux FCEV(Fuel cCell Electric Vehicle) concept เป็นการนำกระบะ 4 ประตูมาปรับเปลี่ยนขุมพลังขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน ที่อาจได้มาจากพลังงานชีวภาพมูลสัตว์ปีกของซีพี และของเสียจากเศษอาหาร ส่วนระยะทางที่วิ่งได้ต่อการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้งเคลมไว้ที่ 600 กม. และยังสามารถรองรับการบรรทุกได้มากถึง 1,500 กก.

คันสุดท้ายรุ่น Hilux Diesel HEV concept เป็นการนำกระบะ 4 ประตูมาปรับเปลี่ยนขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดที่ใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซล ผสานการทำงานกับระบบไฮบริด (HEV) ทำระยะทางวิ่งได้ต่อการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้งได้ไกลมากถึง 1,200 กม. และยังสามารถรองรับการบรรทุกได้มากถึง 3,500 กก. !


จากตัวเลขที่ได้เทียบกันทั้ง 3 รุ่นแล้วจะเห็นได้ว่า Hilux Diesel HEV concept ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด มีความโดดเด่นมากที่สุด เหมาะสมกับการพัฒนาต่อเพื่อเป็นขุมพลังของโตโยต้า ไฮลักซ์ เจนเนอเรชันใหม่ต่อไป

6
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างอุทัยธานี ยินดีให้บริการ

เคยมีคำถามในใจไม่ว่า รถรับจ้างอุทัยธานีที่อยู่ใกล้สุด นานแค่ไหนที่ไม่ได้ใช้บริการรับจ้างขนของ ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน รถรับจ้างขนย้ายห้อง รถสิบล้อรับจ้าง หรือรถรับจ้างขนาดใหญ่ที่เป็นรถเทรลเลอร์รับจ้าง ไม่ว่าจะเป็นงาน รับจ้างขนของ ขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ขนส่งสินค้า หรือ รับจ้างขนย้ายทั่วไป การที่จะได้รถรับจ้างที่อยู่ใกล้บ้านเรามากที่สุดนั้น เราต้องเริ่มจากการค้นหาคำที่มีความชัดเจน ว่าต้องการใกล้ที่ไหนมากสุด หรืออยากได้ให้รถรับจ้างไปขนของให้ที่เราที่จุดไหน ก็ระบุในคำค้นหาคำนั้นได้เลยทันที เช่น ขนย้ายของที่อุทัยธานีก็ใช้คำว่า “รถรับจ้างอุทัยธานี” และอีกความสำคัญนั่นคือการขนย้ายของที่นี่

เราจะขนย้ายเองหรือจะจ้างรถรับจ้างอุทัยธานีมาช่วยเราในการย้ายของ สาเหตุมาจากอะไรบางครั้งเราเคยถามตัวเองว่า ในการขนย้ายของในแต่ละครั้งเรามีความจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องใช้รถขนของของเราเอง หรือจะต้องไปทำการขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองเท่านั้น อีกมุมนึงเราก็มองว่าในเมื่องานบริการสิ่งเหล่านี้ ก็มีให้บริการอยู่มากมายอยู่แล้ว ความเป็นมืออาชีพก็ย่อมที่จะ มีมากกว่าเราอย่างแน่นอน เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะทำการขนย้ายของด้วยตัวเราเอง แล้วทำไมเราจึงต้องมาขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองในเมื่องานบริการเหล่านี้มีให้มาแต่ช้านาน ต้องบอกก่อนว่าเมื่อเราได้พิจารณาถี่ถ้วนดูแล้วหลายๆครั้งที่เราคิดอยากจะลดต้นทุนการขนย้ายของหรือต้องการที่จะประหยัด เพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้เราต้องรู้จักใช้เงินและประหยัดให้มากขึ้น จึงอยากที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเอง ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้บริการรถรับจ้างขนของแต่อย่างใด

เมื่อครั้งหนึ่ง เราเคยคิดแบบนี้และได้ตัดสินใจที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเองโดยที่ไม่เรียกใช้บริการ รถรับจ้าง ตอนนั้นเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ดูจากปริมาณสินค้าแล้วมีเพียงแค่ที่นอน ตู้เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้เพื่อนมาช่วยกันยกประมาณ 3 คนก็น่าที่จะจบ แต่พอถึงวันเวลาที่ขนย้ายกลับกลายเป็นว่ามีเพื่อนมาช่วยยกแค่ 2 คน ทำให้วันนั้นต้องเหนื่อยกับการขนย้ายของเป็นอย่างมากรู้สึกปวดเมื่อยและเหนื่อยล้า คิดอยู่เสมอว่าวันนั้นทำไมเราถึงไม่เลือกใช้บริการรถรับจ้าง เห็นเพียงแค่ว่ามีรถของตัวเองและอยากที่จะประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้นเองเหรอแล้วมันคุ้มกับการ ต้องมาปวดเมื่อยหรือเจ็บร่างกายหรือเปล่า พร้อมกับสินค้า มีการชำรุดเป็นรอยเพราะแรงที่เรายกนั้นไม่ไหวจริงๆ จึงทำให้เรารู้สึกเข็ดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

มาวันนี้ เมื่อเราต้องการที่จะใช้บริการ รถรับจ้างขนย้ายสินค้าจังหวัดอุทัยธานี อีกครั้ง บอกได้เลยทันทีว่าต้องใช้บริการรถรับจ้างอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเรามองแล้วว่าไม่คุ้มแน่ๆถ้าหากเราต้องขนย้ายที่ตัวเราเองอีกสิ่งนึงที่ เราควรจะตระหนักถึงงาน บริการรถรับจ้างขนของ นั่นก็คือความปลอดภัยของผู้ให้บริการ ว่าเป็นผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่และที่สำคัญงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของรายนี้เป็นอย่างไรทุกคนต้องการอยากจะได้รถรับจ้างขนของที่สภาพดี มีคุณภาพในการบริการที่เด่นและมีความน่าเชื่อถือ ทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้บริการ

ดังนั้นเราจึงต้อง ทำการวิเคราะห์หรือหาข้อมูลการให้บริการของรถรับจ้างขนของต่างๆมากมายซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากว่าเราต้องการที่จะค้นหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่ารถรับจ้างนั้นมีรถรับจ้างที่เข้ามาให้บริการจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้เลยว่า อันดับที่อยู่ต้นๆหรือที่มีการโฆษณานั้นคุณภาพงานบริการจะดีหรือไม่ดี แต่เราควรที่จะดูถึงความน่าเชื่อถือดูรีวิวจากลูกค้าและราคาค่าบริการนั้นมันเหมาะสมสมเหตุสมผลหรือไม่ จึงเป็นที่มาว่าเราควรที่จะต้องวิเคราะห์พิจารณารถรับจ้างขนของอย่างไรไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างขนของ รถรับจ้าง 4 ล้อ รถรับจ้าง 6 ล้อ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน หรือ รถขนของหลากหลายชนิดอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในแต่ละขนาดของรถก็จะมีลักษณะงานที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเราจึงต้อง ศึกษาหาข้อมูลหรือเลือกข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์เบื้องต้นในการเลือกรถรับจ้างต่างๆดังนี้

ขนาดของรถรับจ้างต้องมีความเหมาะสมกับสินค้าที่จะขนย้าย ไม่ว่างงาน ย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายคอนโด ย้ายห้องขนส่งสินค้า รถกระบะรับจ้าง หกล้อรับจ้างอุทัยธานี น่าจะมีความเหมาะสมที่จะเข้าให้บริการได้เป็นอย่างดี ยกเว้นแต่สินค้าที่มีปริมาณมากๆหรือบรรทุกน้ำหนักประมาณ 15 ตันก็ควรที่จะใช้ รถสิบล้อรับจ้าง เป็นต้น
ต้องมีคนยกสินค้าหรือพนักงานยกของ เพราะนี่คือสิ่งสำคัญสำหรับการให้บริการ รถรับจ้าง เพราะว่าเราไม่ได้ขนย้ายด้วยตัวเราเอง ดังนั้นเราจึงควรที่จะหาพนักงานยกสินค้าที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามายกสินค้าให้กับเรา

ที่ไปที่มาของผู้ให้บริการรถรับจ้าง ควรที่จะ อยู่ในพื้นที่หรือในระแวกนั้นเพื่อที่จะสามารถให้รถรับจ้างขนของวิ่งเข้ามาให้บริการในช่วงระยะเวลาอันสั้นหรือเราสามารถที่จะบริหารและเวลาในการขนย้ายได้เป็นอย่างดีดังนั้นถ้าหากค้นหาคำว่ารถรับจ้างควรที่จะลงพื้นที่ในรายละเอียดเข้าไปด้วยเช่นต้องการรถรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรีเป็นต้น
ไม่เกี่ยงงานไม่งอแง เพราะต้องการผู้ให้บริการที่มีใจรักงานบริการจริงๆ โดยที่สามารถจะตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการได้แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม และพูดจาไพเราะสุภาพ

ใกล้ไกลแค่ไหนก็สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นอีกหนึ่งบริการที่เราควรจะต้องได้ใช้บริการอย่างแน่นอนเพื่อที่จะเช็คสถานะของสินค้าว่าถึงไหนแล้วหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงการขนย้ายสามารถที่จะโทรบอกผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของได้โดยทันที

ถ้าผู้ให้บริการสามารถที่จะเป็นไปตามคุณลักษณะดังนี้ เราก็มั่นใจได้เลยว่า งานบริการขนย้ายของในรอบนี้จะไม่มีเรื่องยุ่งยากและไม่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างแน่นอน โดยจริงๆแล้วงาน รับจ้างขนของจังหวัดอุทัยธานี นั้นหากพูดไปแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา แน่นอนเพราะว่าเราไม่ใช่ คนที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เราจึงควรปล่อยให้ผู้ให้บริการรถรับจ้างเข้ามาบริการจัดการให้กับเราจึงจะมีความเหมาะสมที่สุดใช้คนให้ถูกงานเลือกรถให้ถูกคุณลักษณะของงาน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแต่ที่สำคัญต้องเลือก รถรับจ้างขนของที่บริการดีราคาไม่แพง หากเพื่อนๆหรือผู้ใช้บริการท่านใด มีความคิดว่าจะขนย้ายของ เรามีเบอร์ให้ท่านได้ลองติดต่อสอบถามหรือพูดคุยรายละเอียดผ่าน ผู้ให้บริการรถรับจ้างอุทัยธานีโดยตรงไม่ต้องมีนายหน้า ซึ่ง เราเคยใช้บริการแล้วมองว่าบริการดีจริงและ มีความเป็นกันเองที่สำคัญต่อรองราคาได้ด้วย

7
ดอกบัวอบแห้ง: วิธีทำดอกไม้แห้ง มีวิธีการทำอย่างไร

การจัดดอกไม้แห้งเก็บเป็นที่ระลึกนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการเก็บรักษาความทรงจำให้ยังคงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งดอกไม้แห้งนั้นสามารถหาซื้อแบบจัดช่อ จัดในแจกัน หรือจะทำเองก็ได้เช่นกัน ในบทความนี้จะพามาดูกันว่าหากต้องการวิธีทำดอกไม้แห้งจะมีขั้นตอนการทำแบบไหน ถ้าอยากเก็บรักษาและยืดอายุให้ดอกไม้อยู่คงทนมากยิ่งขึ้น ดอกไม้อะไรที่นิยมนำมาทำเป็นดอกไม้แห้ง รวมถึงดอกไม้แห้งซื้อที่ไหนได้บ้าง ตามมาดูกันเลย


วิธีทำดอกไม้แห้ง มีวิธีการทำอย่างไร

สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนดอกไม้สดมาเป็นดอกไม้แห้ง เพื่อยืดอายุให้ดอกไม้ยังคงแลดูสวยงามเมื่อเวลาผ่านไป สามารถเลือกใช้วิธีการทำดอกไม้แห้งได้หลายวิธีดังนี้


1. การห้อยกลับหัวให้ดอกไม้แห้ง

สำหรับวิธีมาตรฐานที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ คือการห้อยช่อดอกไม้กลับหัว แนะนำให้ห้อยไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก แสงแดดเข้าถึง ปล่อยไว้จนกว่าดอกไม้จะค่อย ๆ แห้งสนิท หลังจากนั้นจึงสามารถนำไปประดับตกแต่งใส่แจกัน หรือนำไปประดับตกแต่งได้ตามชอบได้เลย


2. ใช้ไมโครเวฟเพื่อทำให้ดอกไม้แห้งอย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ดอกไม้แห้งอย่างรวดเร็ว ดอกไม้แห้งง่าย ใช้เวลาน้อย คือการใช้ไมโครเวฟช่วย วิธีการคือ เตรียมสารดูดความชื้น ดอกไม้ และไมโครเวฟ ตัดแต่งดอกไม้ให้มีก้านสั้น เทใส่ลงภาชนะผสมสารดูดความชื้นให้ท่วมดอกไม้ ตั้งเวลาไมโครเวฟเพียงแค่ 1-2 นาที ก็จะได้ดอกไม้แห้งตามต้องการ


3. การอบแห้งด้วยซิลิกา

วิธีทำดอกไม้แห้งอีกแบบคือ การใช้ทรายซิลิกา (Silica Gel) ซึ่งวิธีนี้จะสามารถคงสภาพของดอกไม้ไว้ได้ดี ทั้งรูปทรงและสีสัน แนะนำให้เลือกซิลิกาที่มีเม็ดเล็กละเอียด เพื่อให้เม็ดซิลิกาสามารถแทรกซึมเข้าไปตามซอกของดอกไม้และกลีบได้อย่างทั่วถึง วิธีทำง่าย ๆ เพียงแค่รองพื้นในภาชนะที่ต้องการทำดอกไม้แห้งให้ทั่ว วางดอกไม้ที่ต้องการลงไป จากนั้นเทซิลิกาทับให้ทั่ว ปิดฝาให้สนิท รอระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน ก็จะได้ดอกไม้แห้งที่ยังคงดูสวยงามและมีความทนทาน


4. การทับให้ดอกไม้แห้ง

เตรียมกระดาษที่มีลักษณะด้านไม่มันวาว จากนั้นนำดอกไม้มาวางเรียงบนกระดาษนำกระดาษอีกใบมาวางกระกบด้านบน แล้วทับด้วยของที่มีน้ำหนักอย่างกล่องใส่ของหรือหนังสือที่มีน้ำหนัก เพียงเท่านี้ก็จะได้ดอกไม้แห้งแล้ว แต่วิธีนี้จะทำให้ดอกไม้แบนลง เหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งลงสมุดบันทึกมากกว่าการนำมาจัดเป็นช่อ
การจัดดอกไม้แห้ง


วิธีทำดอกไม้แห้งใช้เวลากี่วัน?

1. ที่มาและการเติบโตของดอกแอนนีโมนี

ระยะเวลาในการทำดอกไม้แห้งนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการ โดยคร่าว ๆ แล้วสรุปได้ดังนี้

    การตากดอกไม้แบบกลับหัว วิธีนี้ใช้เวลาราว 2-4 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของช่อที่นำมาตากกลับหัว ยิ่งช่อเล็กก็จะยิ่งแห้งไว
    การใช้ไมโครเวฟ วิธีนี้ทำง่าย สะดวก และสามารถทำให้ดอกไม้แห้งได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น
    การอบแห้งด้วยซิลิกา วิธีนี้ก็สะดวกและทำง่ายเช่นกัน โดยถ้าเป็นดอกขนาดเล็ก อาจจะใช้เวลาเพียง 2-4 วัน แต่ถ้าเป็นดอกที่ใหญ่ ก็อาจจะใช้ระยะเวลาในการทำทั้งหมดราว 7-14 วัน


ดอกไม้ที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้ง

แม้จะมีวิธีในการทำให้ดอกไม้แห้ง แต่ก็จะมีประเภทดอกไม้ที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้ง ด้วยคุณสมบัติในการคงสภาพและสีสันให้ยังคงดูสวยงามได้นั่นเอง ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีดอกไม้ชนิดไหนที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้งและสามารถเก็บไว้ได้นานบ้าง


1.    ดอกคัตเตอร์ (Cutter)

ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยลักษณะของดอกที่มีความน่ารัก ทำให้เป็นดอกที่นิยมจัดเข้าช่อ เมื่อทำให้แห้งแล้วจะสามารถเก็บไว้ประดับตกแต่งบ้านได้ แถมยังมีความหมายดี ๆ อย่างความรัก ความภักดี และความอ่อนโยน


2.    ดอกกุหลาบ (Roses)

ราชินีดอกไม้ที่มีความหมายสากลในการใช้เป็นสัญลักษณ์แทนใจในการบอกรัก โดยในปัจจุบันนิยมนำดอกกุหลาบมาอบแห้งแบบซิลิกา เนื่องจากสามารถคงรูปลักษณ์ของตัวดอกไว้ได้อย่างยาวนาน อีกทั้งยังสามารถคงรูปทรงและสีสันได้เหมือนดอกกุหลาบสดอีกด้วย


3.    ดอกสแตติส (Statice)

อีกหนึ่งประเภทของดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดเข้าช่อบ่อย ๆ เพราะดอกนี้เมื่อแห้งแล้ว ก็ยังสามารถคงสภาพและสีสันสดใสไว้ได้เหมือนเดิม โดยดอกสแตติสมีทั้งสีม่วง ขาว ชมพู เหลือง เป็นอีกหนึ่งประเภทดอกไม้ที่มอบความรู้สึกสดชื่น สดใส และสวยงาม


4.    ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea)

ดอกไฮเดรนเยียเป็นดอกทรงพุ่ง มีหลากหลายสีสันทั้งม่วง ชมพู ขาว ฟ้า มาพร้อมรูปทรงสวยงาม แม้จะเป็นดอกไม้สดก็มีความทนทานสูง จึงนิยมนำมาทำเป็นดอกไม้แห้งจัดใส่แจกันเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อใช้ประดับตกแต่งตามสถานที่หรือพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องการเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันบ่อย ๆ

8
vivo X100 Series แพรวพราวกับกล้องระดับโปร ยืนเด่นกล้อง Telephoto เลนส์ ZEISS

vivo ในประเทศไทยเปิดตัว vivo X100 Series อย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดตัวมา 2 รุ่นด้วยกันคือ vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G แน่นอนว่าระดับสมาร์ทโฟน X Series เรื่องกล้องถ่ายรูปต้องมายืนหนึ่ง ด้วยกล้องเลนส์ ZEISS ที่มารอบนี้เลนส์ Telephoto ก็มาจาก ZEISS ด้วยเช่นกัน พร้อมกับเคลือบชั้นเลนส์เทคโนโลยี ZEISS T* แบบใหม่ เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาอย่างคมชัดสมจริง และสมบูรณ์มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการปรับดีไซน์เล็กน้อยจาก vivo X90 Series จากเดิมขยับไปทางซ้ายเล็กน้อย แต่ใน vivo X100 Series มีการขยับโมดูลวงกลมกล้องหลังมาอยู่ตรงกลาง

vivo X100 Pro 5G
vivo X100 Pro 5G รุ่นพี่จัดหนักด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลักเลนส์ ZEISS กระจก 1 ชั้น + เลนส์พลาสติก 7 ชั้น เซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.75 กันสั่น OIS ต่อมาเป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 50MP กันสั่น OIS และมารอบนี้เป็นเลนส์ ZEISS APO Floating ที่ให้ความไวต่อแสงสูง สีสันออกมาสดใส ไม่ว่าระยะถ่ายไหน จะมือดหรือสว่างก็ตาม สุดท้ายเป็นกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP

สเปคของ vivo X100 Pro 5G

    ขนาดตัวเครื่อง : 164.05 x 75.28 x 8.91 มม.
    น้ำหนัก : 225 กรัม
    หน้าจอแสดงผล : AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2800x1260) ปรับความสว่างได้สูงสุด 3000nits อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
    ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9300
    RAM : 16GB LPDDR5x
    ROM : 512GB UFS 4.0
    ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
    กล้องหลัก 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
    - กล้องหลักเลนส์ ZEISS กระจก 1 ชั้น + เลนส์พลาสติก 7 ชั้น เซนเซอร์ IMX989 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.75 กันสั่น OIS
    - กล้อง Telephoto เลนส์ ZEISS APO Floating ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.75 กันสั่น OIS
    - กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.5
    กล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.0
    เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM 2 ช่อง หรือเป็น eSIM
    การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, GPS, OTG, NFC, พอร์ต USB Type-C 3.2 Gen 1
    มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
    ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนในหน้า
    แบตเตอรี่ : 5700mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 100W และไร้สาย 50W

vivo X100 5G
รุ่นน้องอย่าง vivo X100 5G ยังมีดีไซน์เหมือนตัวโปร แต่จะถูกลดสเปคบางส่วนทั้ง RAM, กล้องหลัง และเรื่องของแบตเตอรี่ลงมาเล็กน้อย โดยมีกล้องหลัง 3 ตัวเหมือนกัน แต่กล้องหลักเป็น VCS ช่วยเฉดสีเที่ยงตรง เซนเซอร์ IMX920 ขนาด 1/1.49 นิ้ว ความละเอียด 50MP กันสั่น OIS ต่อมาเป็นกล้อง Telephoto เลนส์ ZEISS ความละเอียด 64MP กันสั่น OIS รองรับการซูมไฮบริด 100 เท่า และมีกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP ส่วนแบตเตอรี่ลดลงมาเหลือ 5,000mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 120W

สเปคของ vivo X100 5G

    ขนาดตัวเครื่อง : 164.05 x 75.18 x 8.49 มม.
    น้ำหนัก : 206 กรัม
    หน้าจอแสดงผล : AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2800x1260) ปรับความสว่างได้สูงสุด 3000nits อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
    ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 9300
    RAM : 12GB LPDDR5x
    ROM : 256GB UFS 4.0
    ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
    กล้องหลัก 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED
    - กล้องหลัก VCS เซนเซอร์ IMX920 ขนาด 1/1.49 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.57 กันสั่น OIS
    - กล้อง Telephoto เลนส์ ZEISS ความละเอียด 64MP รูรับแสง f/2.57 กันสั่น OIS
    - กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0
    กล้องหน้า ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.0
    เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ NanoSIM 2 ช่อง หรือเป็น eSIM
    การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, GPS, OTG, NFC, พอร์ต USB Type-C 3.2 Gen 1
    มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
    ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนในหน้า
    แบตเตอรี่ : 5000mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 120W

ในตอนนี้ทั้ง vivo X100 Pro 5G และ vivo X100 5G มีการเปิดตัว และวางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย vivo X100 Pro 5G มีให้เลือกสีเดียวคือ Asteroid Black และ vivo X100 5G มีให้เลือก 2 สีคือ Asteroid Black และ Startrail Blu

9
เครื่องมือการจัดฟัน EF LINE ต่างจากการเครื่องมือการจัดฟันเด็กแบบเหล็กจัดฟันอย่างไร

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่มความผิดปกติในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเด็กไทยส่วนใหญ่มีการเกิดฟันผุมาก

ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง และพฤติกรรมในวัยเด็กที่อาจจะมีเข้าข่ายมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟันในอนาคต ซึ่งในความเป็นจริง การเกิดความผิดปกติของการสบฟันที่เกิดกับเด็ก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามก็สามารถเกิดได้ทั้งนั้น  ดังนั้น เด็กควรที่จะได้รับการตรวจและรักษาโดยทันตแพทย์จัดฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ดีกว่าเป็นวัยรุ่น ซึ่งเด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี หรือในวัยที่กำลังมีฟันแท้งอกออกมา แต่โดยทั่วไป


การจัดฟันในเด็กอายุต่ำว่า 10 ปี มักเป็นการจัดฟันบางส่วน จุดประสงค์ก็เพื่อการรักษาเฉพาะบริเวณ เพื่อป้องกันเบื้องต้น หรือช่วยลดความรุนแรงของปัญหา ซึ่งเมื่อเด็กโตพอ ก็มักจะต้องจัดฟันทั้งปากต่อไป หรือเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือ EF LINE ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ได้อย่างดีเลยทีเดียว


เพราะเนื่องจากเด็กบางคนในวัยนี้ ยังไม่สามารถดูแลตัวเองในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะยังไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์จัดฟันได้ดีเท่าที่ควร จึงเหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันด้วยการใช้เครื่องมือ EF LINE พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก แบบ EF LINE ว่าจะมีความแตกต่างกับการจัดฟันในเด็กที่สวมใส่เครืองมือแบบติดแน่น ดังนั้น วันนี้ทางคลินิก Idol Smile ของเราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างของการจัดฟันในเด้กแบบ EF LINE และการจัดฟันในเด็กแบบสวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป้นแนวทางในการจัดสินใจพาเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อแก้ไขปัญหาฟัน
 

ในปัจจุบันได้มีการศึกษาในเรื่องของทันตกรรมในเด็ก ซึ่งพบว่า กล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ดังนั้น จึงมีการออกแบบเครื่องมือเพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง โดยเครื่องมือดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า EF LINE ซึ่งเครื่องมือดังกล่าว เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ


ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต  โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนถึงอายุ 15 ปี โดยเครื่องมือในกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า เป็นต้น


ซึ่งจะแตกต่างจากการจัดฟันในเด็กที่ใส่เครื่องมือแบบติดแน่น ก็คือ การจัดฟันในเด็กแบบใส่เหล็กจัดฟันนั้น ก็เหมือนกับการจัดฟันในวัยผู้ใหญ่ เพราะใช้เครื่องมือแบบเดียวกัน และมีการดูแลรักษาที่เหมือนกัน เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป เพราะเด็กในวัยนี้ จะสามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้ดีกว่า และจะต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่ค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น เครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่น จึงไม่เหมาะสมกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี เพราะยังไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้นั่นเอง


สำหรับใครที่อยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก รวมไปถึงด้านทันตกรรมในเด็กในด้านอื่นๆด้วย จากประสบการณ์อย่างยาวนานในวงการทันตกรรมทำให้สามารถให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราอยากให้เด็กทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข


10
Doctor At Home: โรคลำไส้แปรปรวน,อาการลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า,ไอบีเอส,IBS

โรคลำไส้แปรปรวน (lrritable bowel syndrome/IBS)* (กลุ่มอาการลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า ไอบีเอส ก็เรียก) เป็นภาวะที่ลำไส้ทำหน้าที่ผิดปกติ โดยไม่มีพยาธิสภาพหรือความผิดปกติของโครงสร้างลำไส้ และโรคทางกายอื่นใด ก่อให้เกิดอาการปวดท้อง มีลมในท้องมาก ร่วมกับท้องเดินหรือท้องผูกแบบเรื้อรัง จัดว่าเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการท้องเดินเรื้อรัง ในกลุ่มประเทศตะวันตกพบโรคนี้ประมาณร้อยละ 10-20 ของคนทั่วไป ส่วนในบ้านเราจากการศึกษาเบื้องต้นพบประมาณร้อยละ 7 ของคนทั่วไป และพบประมาณร้อยละ 10-30 ของผู้ที่มีอาการท้องเดินเรื้อรังที่มาพบปรึกษาแพทย์

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มมีอาการครั้งแรกตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป พบมากในช่วงอายุ 30-50 ปี และหลังอายุ 60 ปีจะพบน้อยลง พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 1.5-3 เท่า และพบว่าผู้ที่มีประวัติโรคลำไส้แปรปรวนในครอบครัวมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนปกติทั่วไปประมาณ 2-3 เท่า

โรคนี้แม้จะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เป็นแรมปีหรือตลอดชีวิตก็ไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือกลายเป็นโรคร้ายแรงแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีสุขภาพแข็งแรงและทำงานได้เป็นปกติ

*แต่เดิมมีชื่อเรียกต่าง ๆ เช่น mucoid colitis, spastic colon, spastic bowel, irritable colon

สาเหตุ

โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น กรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม สภาพจิตใจ การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้ป่วย (มีชนิดและจำนวนจุลินทรีย์ที่แตกต่างจากคนปกติ) ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท ระบบฮอร์โมน และสารเคมีต่าง ๆ (เช่น พรอสตาแกลนดิน ซีโรโทนิน แบรดิไคนิน เป็นต้น) ที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของลำไส้ใหญ่ ทำให้ลำไส้ใหญ่ทำหน้าที่ผิดปกติไป กล่าวคือ ลำไส้ใหญ่มีความไวต่อสิ่งกระตุ้น (ได้แก่ ความเครียด อาหารบางชนิด) มีการเคลื่อนตัวเร็วกว่าปกติ (ทำให้ท้องเดิน) หรือช้ากว่าปกติ (ทำให้ท้องผูก) และมีการบีบตัวมากกว่าปกติ (ทำให้ปวดท้อง)

นอกจากนี้ยังพบว่า การติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ชักนำให้เกิดโรคนี้ได้ เรียกว่า โรคลำไส้แปรปรวนหลังติดเชื้อ (post-infectious IBS)


อาการ

มีลักษณะเฉพาะ คือ มีอาการปวดท้อง มีลมในท้อง ร่วมกับท้องเดิน ท้องผูก หรือท้องเดินสลับท้องผูก เป็น ๆ หาย ๆ เป็นแรมปี อาการเหล่านี้อาจเป็นต่อเนื่องทุกวัน หรือเป็นบางวันหรือบางช่วง ซึ่งนับรวม ๆ กันแล้วเป็นเวลามากกว่า 12 สัปดาห์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อาการจะมีลักษณะและความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน หรือแต่ละช่วงเวลา ส่วนน้อยที่จะมีอาการมากจนผู้ป่วยต้องไปปรึกษาแพทย์

อาการปวดท้องมีลักษณะไม่แน่นอน อาจปวดบิดเกร็งเป็นพัก ๆ ปวดตื้อ ๆ ปวดแปลบ ๆ หรือแน่นอึดอัด ไม่สบายท้อง ส่วนใหญ่จะปวดบริเวณท้องน้อยข้างซ้าย (บางรายอาจปวดทั่วท้อง) อาการจะทุเลาทันทีหลังถ่ายอุจจาระหรือผายลม

ผู้ป่วยมักมีลมในท้องมาก ท้องอืด เวลาถ่ายอุจจาระมักมีลมออกมาด้วย

ในรายที่มีอาการท้องเดินเป็นอาการเด่น จะมีอาการถ่ายเป็นน้ำหรือถ่ายเหลวบ่อย (มากกว่า 3 ครั้ง/วัน) โดยมักมีอาการปวดท้องอยากถ่ายทันทีหลังกินอาหาร โดยเฉพาะมื้อที่กินอาหารหลังปล่อยให้ท้องว่างมานาน (เช่น มื้อเช้า) กินอาหารมาก กินเร็ว ๆ หรือกินอาหารชนิดที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ผู้ป่วยจะปวดท้องถ่ายแบบกลั้นไม่อยู่ ต้องเข้าห้องน้ำทันที บางรายอาจมีอาการเหมือนถ่ายอุจจาระไม่สุด อยากถ่ายบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งถ่ายไปไม่นาน โดยทั่วไปมักถ่าย 1-3 ครั้งหลังอาหารบางมื้อ แล้วหายเป็นปกติ อาการไม่รุนแรง ไม่มีคลื่นไส้ อาเจียน ไม่มีภาวะขาดน้ำ และส่วนใหญ่หลังเข้านอนแล้วมักจะไม่ต้องลุกขึ้นมาถ่ายอุจจาระจนกระทั่งรุ่งเช้า

ในรายที่มีอาการท้องผูกเป็นอาการเด่น จะมีอาการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์ อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็งขนาดเล็ก ถ่ายลำบาก ต้องออกแรงเบ่ง และมีอาการปวดบิดในท้องร่วมด้วย

บางรายอาจมีอาการท้องเดินสลับท้องผูกเป็นช่วง ๆ

ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายมีมูกปนออกมากับอุจจาระ มูกนี้คือน้ำเมือก (mucus) ปกติที่เยื่อบุลำไส้หลั่งออกมาเพื่อให้ความชุ่มชื้น และปกป้องผิวลำไส้ ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีเลือดปน

บางรายอาจมีอาการปวดท้อง มีลมในท้อง โดยไม่มีอาการท้องเดินหรือท้องผูกร่วมด้วยก็ได้ คล้ายอาการอาหารไม่ย่อย หรือโรคกระเพาะอาหาร

ผู้ป่วยมักมีอาการกำเริบหรือรุนแรงขึ้นเนื่องจากสิ่งกระตุ้น ได้แก่

    ความเครียดทางจิตใจ วิตกกังวล ซึมเศร้า
    อาหารบางชนิด เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม อาหารเผ็ดจัด มันจัด กะทิ ข้าวสาลี หัวหอม กระเทียม ถั่วต่าง ๆ ผลไม้ น้ำหวาน น้ำผึ้ง แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ช็อกโกแลต แยม หมากฝรั่ง โคล่า น้ำโซดา น้ำอัดลม เป็นต้น
    อาหารมื้อหนัก (กินปริมาณมาก) หรือกินอาหารหลังปล่อยให้ท้องว่างมานาน หรือกินอาหารเร็ว ๆ
    ยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูกหรือท้องเดิน
    ขณะมีประจำเดือน
    การติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้

นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคกังวลทั่วไป โรคซึมเศร้า อาหารไม่ย่อย ไมเกรน อาการปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดประจำเดือน ปัสสาวะบ่อยหรือกลั้นไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากทำให้เกิดความวิตกกังวล กลัวเป็นโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรง หรือมีภาวะซึมเศร้า

บางรายอาจเป็นมากจนมีผลกระทบต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวัน

ในรายที่ถ่ายบ่อยหรือต้องเบ่งถ่ายมาก ๆ ก็อาจทำให้โรคริดสีดวงทวารกำเริบได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

การตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน นอกจากอาจพบอาการท้องอืด มีลมในท้องมาก

ในรายที่สงสัยว่าอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือดเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือดสดหรือถ่ายดำ ซีด ดีซ่าน เป็นต้น แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจอุจจาระ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารและ/หรือลำไส้ใหญ่ เป็นต้น


เกณฑ์การวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน

มีอาการปวดท้อง หรือแน่นท้อง นับระยะเวลาโดยรวมแล้วอย่างน้อย 12 สัปดาห์จากช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการอย่างต่อเนื่องทุกวัน

อาการปวดท้องหรือแน่นท้อง มีลักษณะ 2 ใน 3 อย่างต่อไปนี้

    อาการทุเลาหลังถ่ายอุจจาระ หรือ
    เมื่อมีอาการเกิดขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงความถี่ (จำนวนครั้ง) ของการถ่ายอุจจาระ หรือ
    เมื่อมีอาการเกิดขึ้น จะมีการเปลี่ยนแปลงของลักษณะอุจจาระ

หมายเหตุ
1. อาการต่อไปนี้ ช่วยสนับสนุนการวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน

    จำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระต่อวันผิดปกติ (มากกว่า 3 ครั้ง/วัน หรือน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์)
    ลักษณะอุจจาระผิดปกติ (เป็นก้อนแข็ง ถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลว)
    มีอาการผิดปกติของการถ่ายอุจจาระ (ต้องเบ่งถ่าย ปวดท้องถ่ายทันทีจนกลั้นไม่อยู่ หรือรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำถ่ายอุจจาระบ่อย ๆ)
    ถ่ายเป็นมูกปนมากับอุจจาระ
    มีอาการท้องอืด มีลมในท้องมาก

2. อาการต่อไปนี้ ทำให้นึกถึงโรคนี้น้อยลง และควรหาสาเหตุอื่น

    ซีด
    เลือดออกในทางเดินอาหาร
    ไข้
    ท้องเดินอย่างต่อเนื่อง
    ท้องผูกรุนแรง
    น้ำหนักลด
    ปวดท้อง และถ่ายอุจจาระหลังนอนหลับตอนกลางคืน
    มีประวัติของมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว
    เริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

1. ถ้ามีอาการเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน จะซักถามประวัติอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการกำเริบ (หากผู้ป่วยยังไม่ทราบชัดเจน แนะนำให้สังเกตและบันทึกไว้เมื่อมีอาการกำเริบใหม่) รวมทั้งให้คำแนะนำผู้ป่วยในการปฏิบัติตัว

สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก แนะนำให้ผู้ป่วยกินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น ถ้าไม่ได้ผลแพทย์จะให้กินสารเพิ่มกากใย

สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเดิน แนะนำให้ผู้ป่วยลดการกินอาหารที่มีกากใย เพราะอาจทำให้ถ่ายท้องมากขึ้น

2. ถ้ายังไม่ได้ผล หรือมีอาการมากจนมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แพทย์จะให้ยาบรรเทาตามอาการเป็นครั้งคราว เช่น ให้ไฮออสซีน (ซึ่งเป็นยาต้านการบีบเกร็ง) สำหรับอาการปวดบิดท้อง, โลเพอราไมด์ (ซึ่งเป็นยาระงับการถ่าย) สำหรับอาการท้องเดิน, ยาระบาย (เช่น เซนนา, ไบซาโคดิล) สำหรับอาการท้องผูก, ยาทางจิตประสาท สำหรับอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือนอนไม่หลับ เป็นต้น

หากให้ยาขั้นพื้นฐานบรรเทาอาการไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาชนิดใหม่ เช่น Alosetron (สำหรับผู้หญิงที่มีอาการท้องเดินเรื้อรัง), Ramosetron (สำหรับผู้ชายที่มีอาการท้องเดินเรื้อรัง), Lubiprostone (สำหรับผู้หญิงที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง) เป็นต้น

3. ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง มีอาการอ่อนเพลียหรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ่ายเป็นมูกปนเลือดเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือดสด หรือถ่ายดำ ซีด มีไข้ ท้องเดินอย่างต่อเนื่องทุกวันนานเกิน 1 สัปดาห์ ท้องผูกรุนแรง ลุกขึ้นถ่ายหลังนอนหลับตอนกลางคืน มีประวัติของมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว หรือเริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่อมีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือสงสัยจะเกิดจากสาเหตุอื่น หรือให้ยาบรรเทาไม่ได้ผล แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม (เช่น การใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารและ/หรือลำไส้ใหญ่) เพื่อหาสาเหตุ ถ้าตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ก็จะให้การรักษาแบบโรคลำไส้แปรปรวน

ผลการรักษา มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง การรักษาเพียงช่วยบรรเทาอาการ และช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการท้องเดิน ท้องผูก ปวดท้อง หรือ ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน ควรดูแลรักษา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ
    ผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่มีความเครียดเป็นเหตุกำเริบ เช่น ฝึกโยคะ รำมวยจีน ฝึกสมาธิ สวดมนต์ ทำงานอดิเรก เป็นต้น

    หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเหตุกำเริบ (เช่น นม อาหารรสเผ็ด อาหารมัน ถั่วต่าง ๆ อะโวคาโด เบอร์รี แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำหวาน น้ำผึ้ง น้ำโซดา น้ำอัดลม เป็นต้น) กินอาหารช้า ๆ กินอาหารพออิ่ม หรือมื้อละน้อยแต่บ่อยขึ้น กินอาหารให้ตรงเวลาทุกวัน (อย่ากินเลยเวลามื้ออาหารหรืองดกินอาหารบางมื้อ)
    หลีกเลี่ยงยาที่มีผลให้เกิดอาการท้องผูกหรือท้องเดิน
    ในช่วงที่มีอาการท้องผูกกำเริบ ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ วันละประมาณ 8-12 แก้ว (2-3 ลิตร) และกินอาหารที่มีกากใยสูง (ผัก ผลไม้ ธัญพืช) ให้มาก ๆ
    ในช่วงที่มีอาการท้องเดินกำเริบ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และงดอาหารที่มีกากใยสูง อาหารรสเผ็ด ชา กาแฟ แอลกอฮอล์


ควรกลับไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดท้องรุนแรง
    มีอาการลุกขึ้นถ่ายตอนดึก หรือถ่ายบ่อยทุกวันนานเกิน 1 สัปดาห์
    ถ่ายเป็นมูกมีกลิ่นเหม็น หรือมูกปนเลือด หรือเป็นเลือดสด หรือถ่ายอุจจาระดำ
    มีภาวะซีด
    มีอาการอ่อนเพลีย หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
    มีไข้ร่วมด้วยทุกวัน นานเกิน 1 สัปดาห์
    เริ่มมีอาการครั้งแรกเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด
    มีความวิตกกังวล


การป้องกัน

โรคนี้เป็นโรคประจำตัว มักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง โดยที่สุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี

ควรป้องกันไม่ให้กำเริบบ่อย ด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้โรคกำเริบ โดยหมั่นบันทึกประวัติการกำเริบของโรคว่าเกิดจากสาเหตุใดบ้าง แล้วพยายามหลีกเลี่ยง (งดบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุ) หรือจัดการแก้ไขเสีย (เช่น การจัดการและป้องกันความเครียด)


ข้อแนะนำ

1. ถึงแม้โรคนี้จะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง และไม่มียารักษาโดยเฉพาะหรือให้หายขาด แต่ก็ไม่มีอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งไม่กลายเป็นมะเร็งหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง เพียงสร้างความรำคาญหรือความลำบากในการคอยหาห้องน้ำ เวลาเดินทางออกนอกบ้าน หากจำเป็นก็สามารถใช้ยาบรรเทาอาการเป็นครั้งคราว

2. ผู้ที่มีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก หรือท้องเดินเรื้อรัง มักเกิดจากโรคลำไส้แปรปรวนเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็พึงระวังว่า อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนั้นควรตรวจดูอาการให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ไม่ควรด่วนคิดว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน

3. ในปัจจุบันยาที่รักษาโรคนี้เป็นเพียงยาที่ใช้บรรเทาอาการชั่วคราว เช่น ยาระบายแก้ท้องผูก ยาแก้ท้องเดิน มีข้อเสียว่าถ้าใช้มาก ก็จะมีผลข้างเคียงให้เกิดอาการตรงกันข้าม เช่น ยาระบายแก้ท้องผูก อาจทำให้มีอาการท้องเดินตามมา ยาแก้ท้องเดิน อาจทำให้มีอาการท้องผูกตามมา ดังนั้นควรเน้นการปรับพฤติกรรมตนเองเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต อาหารการกิน การออกกำลังกาย และการผ่อนคลายความเครียดเป็นหลัก ควรใช้ยาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น


11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/




12
มอเตอร์โชว์: โอร่า ORA-Good Cat Pro-ปี 2024
799,000 บาท 

โอร่า ORA-Good Cat Pro-ปี 2024
ORA Good Cat PRO เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทย ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จะเริ่มทำการผลิตจากโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เพื่อส่งออก ขายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยจะมากับสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเขียว (Pistachio Green), สีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว (Verdant Green with Hamilton White Roof), สีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล (Hazel Wood Beige with Wisdom Brown Roof), สีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof) และ สีขาว (Hamilton White)ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            ORA
   รุ่น                โอร่า ORA-Good Cat Pro-ปี 2024
   ประเภทรถ       รถเก๋ง 5 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา            799,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ซันรูฟ (เปิดได้)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
ไฟตัดหมอก (หลัง)
ระบบควบคุมระยะการจอด (หลัง 4 จุด)
ไฟท้าย LED (Tail Light Strip)
ขนาดยางหน้า-หลัง (215/50 R18)
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (อัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (อัจฉริยะ พร้อมระบบ เปิด-ปิดอัตโนมัติ)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า)
ไฟ Daytime Running Lights
ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)

   ภายใน
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (5 รูปแบบ มาตรฐาน/Sport/ECO/ECO+/อัตโนมัติ)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)         แรงม้า
   ระบบเกียร์                          1 จังหวะ
   รูปแบบเกียร์                       ก้านเปลี่ยนเกียร์เกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ด้านข้างพวงมาลัย
   ระบบเบรค ABS                   มี
   ชนิดแบตเตอรี่                    ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                   57.7 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) มีระยะทางวิ่ง สูงสุด 480 กิโลเมตร (NEDC Standard)
   น้ำหนักตัวรถ                       -
  ประเภทยางรถยนต์                 -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                   ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                  ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
ไฟเบรกดวงที่ 3
สัญญาณเตือนถอยหลัง (เมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง CTA)
รีโมทคอนโทรล (Smart Keyless Entry และระบบ Quick Start System)
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (Intelligent Safety,ระบบจอดรถด้วยเกียร์ N,ระบบตรวจสอบสถานะผ่านแอปพลิเคชั่น,การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน)
เข็มขัดนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
อื่นๆ (ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยกและคนเดินเท้า, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า, รบบช่วยเบกฉุกฌฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง ฯลฯ)
ระบบ intelligence around view monitor กล้องมองภาพรอบทิศทาง
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
ระบบสั่งการด้วยเสียง
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (ที่ความเร็วตํ่า, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน)
กล้อง
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA (ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง,ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2)
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อมฟังก์ชันหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)

13
มือถือ Vivo วีโว่ vivo-X Fold+ (12GB/256GB)
N/A 

วีโว่ vivo-X Fold+ (12GB/256GB)
Vivo X Fold+ สมาร์ตโฟนดีไซน์สวย หน้าจอขนาด 8.03 นิ้ว มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ ความจุแบตเตอรี่ 4,730 mAh รองรับ Fast charging 80W

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น           วีโว่ vivo-X Fold+ (12GB/256GB)
   ราคากลาง        -
   จำนวนซิม        1 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์        จอสัมผัส
   สี                   Black, Blue, Red

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850 / 900 / 1800 / 1900)
3G(HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100)
4G(1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 25, 26, 28, 32, 66)
5G(1, 2, 3, 5, 7, 8, 12, 20, 28, 66, 38, 40, 41, 77, 78, 79 SA/NSA)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 162 x กว้าง 74.5 x หนา 14.6 มม., น้ำหนัก 311 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด          -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 4,730 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ             จอสัมผัส (Foldable LTPO AMOLED)
   ความละเอียด      8.03 นิ้ว, 360 ppi, 1,916 x 2,160 px

   รายละเอียดอื่น
ระบบปฏิบัติการ Android 12, Origin OS Ocean
ประมวลผลชิปเซ็ต Qualcomm SM8475 Snapdragon 8+ Gen 1
กล้องหลัง 4 เลนส์ เลนส์หลัก 50 MP, f/1.8 + เลนส์ periscope telephoto 8 MP, f/3.4 + เลนส์ telephoto 12 MP, f/2.0 + เลนส์ ultrawide 48 MP, f/2.2
มีระบบเซนเซอร์ Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
รองรับ Fast charging 80W

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                            Auto Focus, Flash

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            Octa-core
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)    Adreno 730
   หน่วยความจำ (RAM)              12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              Bluetooth(5.2), Wi-Fi(802.11 a/b/g/n/ac/6)
   ระบบรับส่งข้อความ                 SMS, MMS, EMAIL
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต            3G, GPRS, EDGE, WiFi, 4G, 5G
   ระบบ GPS                         GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS, NavIC

14
ไม่ควรรอช้า ! จัดฟันเด็กเล็ก ดีกว่าจัดฟันตอนโต !

มีความเชื่อมากมายของคนในอดีตเกี่ยวกับการจัดฟัน เช่น ไม่ควรจัดฟันตอนเด็ก เพราะ จะทำให้ช่องปากมีปัญหา บ้างก็ว่าจัดตอนเด็กโตไปก็ต้องจัดใหม่อีกรอบอยู่ดี บ้างก็มองถึงความไม่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพัฒนาด้านทันตกรรม และการศึกษาที่มากขึ้นจากทั่วโลกทำให้ทราบแล้วว่า การจัดฟันควรทำก่อน อายุ 13 ปี นอกจากจะทำให้ฟันเข้ารูปเรียงตัวกันสวยงามตามธรรมชาติได้ง่ายกว่าในวัยเจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้ใบหน้าเข้ารูปสวยงามได้อีกด้วย ซึ่งต่างจากการจัดฟันตอนที่อยู่ในช่วงใกล้หยุดเจริญเติบโต หรือในช่วงเด็กโตเนื่องจากฟันจะเข้ารูปยากกว่าแถมไม่ช่วยเรื่องโครงหน้าอีกด้วย


โดยในวันนี้จะพาคุณผู้อ่านที่กำลังสนใจจะให้บุตรหลานทำการจัดฟัน มาทำความรู้จักกับ EF Line อุปกรณ์จัดฟันเด็กเล็กนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ได้รับการลองรับจากทั่วโลก ดังต่อไปนี้


จัดฟันในเด็กเล็กควรเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

เด็กเล็กสามารถจัดฟันได้ตั้งแต่ฟันยังเริ่มเป็นฟันน้ำนม หรือจะรอให้ฟันแท้ขึ้นครบก่อนก็ได้ แต่ควรเริ่มจัดฟันในระยะแรกเมื่อฟันแท้ขึ้นครบ เพราะจะทำให้รักษาได้ง่าย ค่าใช้จ่ายจึงน้อยลงตามไปด้วย และที่สำคัญคือ ผลการรักษาที่ออกมามีประสิทธิภาพและยั่งยืนกว่ามาทำตอนที่โตแล้วมาก

สาเหตุที่ส่งผลให้ฟันแท้เรียงตัวผิดปกติไม่สวยงามตามธรรมชาติ ?

     พันธุกรรม
     การดูแลฟันน้ำนมไม่ดีพอ จนทำให้ต้องถอนก่อนกำหนด ทำให้ฟันแท้เกิดการล้มเกได้ง่าย
     พฤติกรรมต่างๆในวัยเด็ก เช่น ดูดนิ้ว กัดเล็บ ติดจุกนมปลอม หายใจทางปาก และ กัดริมฝีปาก
     ปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ


EF Line อุปกรณ์จัดฟันเด็กเล็ก ?

จากการศึกษาในปัจจุบันทำให้ทราบได้ว่า กล้ามเนื้อใบหน้า และ ลิ้น มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า จึงได้ทำการคิดค้นเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกล้ามเนื้อขากรรไกร รวมถึงจัดฟันที่ผิดปกติให้กลับเข้าที่ได้ด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะทุกส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างอัศจรรย์ โดยเรื่องมือนี้คือ EF Line

โดย EF Line สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เด็กเล็กอายุประมาณ 4 ปี จนถึงอายุ 15 ปี ซึ่งเครื่องมือ EF Line นี้สามารถแก้ปัญหาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ปัญหารูปทรงใบหน้าที่ไม่เข้ารูป คางยื่น คางยุบ ให้กลับเข้าสู่สภาพโครงหน้าปกติ รวมถึงเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่เรียงตัวผิดปกติซึ่งส่งผลถึงปัญหามากมายในอนาคต

ซึ่ง EF Line จัดเป็นงานการประยุกต์และปรับปรุงการเจริญเติบโตซึ่งจะได้ผลดีเมื่อเริ่มในเด็ก ในผู้ป่วยที่สบฟันแบบ ฟันบนยื่นมาก โดยสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 6-9 เดือนเท่านั้นเอง ต่างกับการที่ไปรอจัดฟันในช่วงเด็กโต เพราะอาจจะต้องใช้ระยะเวลาจัดฟันเป็นปีกว่าจะเข้ารูปสวยงาม ทำให้การจัดฟันในเด็กเล็กมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าอีกด้วย


EF Line กระบวนการจัดฟันปรับโครงหน้าเด็ก สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

     ฟันล่างสบคร่อมฟันบน
     ฟันสบลึก
     ฟันสบเปิด
     นิสัยผิดปกติของเด็ก
     การกลืนผิดปกติ
     การวางลิ้นผิดปกติ
     การหายใจทางปาก
     คางเบี้ยว
     นอนกรน


วิธีการใช้งาน อุปกรณ์ EF Line อย่างถูกต้อง !

1.     ก่อนที่จะทำการใช้เครื่องมือ EF Line ควรพาเด็กเล็กที่ต้องการใส่อุปกรณ์ ไปพบทันตแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบวินิจฉัย

2.     ต้องอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดการจัดฟัน เพื่อได้รับคำแนะที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

3.     เมื่อได้อุปกรณ์จัดฟันเด็ก EF Line มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องให้เริ่มทำการใส่โดยตอนกลางคืนให้เด็กๆใส่นอนไว้เลยเป็นเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง และในเวลากลางวันเมื่อเด็กตื่นนอนให้ใส่ติดปากไว้ ประมาณ 2 ชั่วโมง และในขณะที่ใส่อุปกรณ์ ห้ามให้เด็กเคี้ยวอะไรเล่น พยายามให้พูดน้อยที่สุด และปิดปากให้สนิทที่สุดเท่าที่จะทำได้

4.     ในขณะที่ใส่อุปกรณ์อยู่พยายามให้เด็กดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชุ่มชื่นในปาก ลดการระคายเคืองในช่องปากที่ก่อให้เกิดแผลจากการเสียดสี

5.     ไม่ว่าเด็กจะขอถอดออกอย่างไรก็ห้ามตามใจจนกว่าจะครบกำหนดเวลา เพราะในการใส่อุปกรณ์ช่วงแรก เด็กจะรู้สึกไม่สบายปาก ระคายเคือง และอาจจะมีอาการเหมือนอยากอาเจียนบ้าง แต่เมื่อนานไปเด็กจะสามารถใส่ได้นานขึ้นหลังจากเคยชิน

6.     สุดท้ายคือ ห้ามละเลยกับการพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการวิเคราะห์ตรวจวินิจฉัยถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ


15
บริหารจัดการอาคาร:  หลอดไฟ LED กินไฟน้อยลงแต่สว่างมากขึ้น

บ้านไหนที่ยังใช้หลอดไฟแบบเดิม ๆ อยู่  ขอเชียร์ให้ลองหันไปใช้หลอดไฟ LED กันดูครับ ถึงแม้ว่าราคาตัวหลอดไฟจะสูง แต่หลอดไฟ LED นี้ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่น แถมยังให้ความสว่างที่มากขึ้นอีก ซึ่งเราสามารถประหยัดเงินจากการใช้หลอดไฟ LED ได้ถึง 15 – 80% เลยทีเดียว ถือได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคาจริง ๆ


มาดูเพิ่มเติมกันค่ะ ว่าข้อดี ข้ออื่น ๆ ของหลอดไฟ LED มีอะไรบ้าง

1. หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานยาวนาน

ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย เนื่องจากหลอดไฟ LED ให้แสงสว่างโดยการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนในสารกึ่งตัวนำ ไม่มีการเผาไหม้ไส้ของหลอดไฟ จึงไม่เกิดความร้อน ทำให้มีอายุการใช้งานของหลอดไฟ LED ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมอย่างมาก ซึ่งยาวนานถึง 30,000 – 50,000 ชั่วโมง หากซื้อหลอดไฟ LED มา 1 หลอด ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ปีเลย


2. หลอดไฟ LED ช่วยลดความร้อนโดยรวมในบ้านได้

          อุณหภูมิในบ้านเย็นขึ้นได้ หากเลือกใช้หลอดไฟ LED เนื่องจากหลอดไฟ LED มีความร้อนต่ำ ปล่อยความร้อนออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ความร้อนภายในบ้านลดลงไปด้วย อีกทั้งหากเราเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อน ยังสามารถทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานลดลงได้ ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกด้วย


3. หลอดไฟ LED กินไฟน้อย ประหยัดค่าใช้จ่ายมาก

          ถึงตัวหลอดไฟ LED จะมีราคาแพง แต่หากมองระยะยาวแล้วหลอดไฟแบบนี้จะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากหลอดไฟ LED มีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบายความร้อนได้ดีกว่าหลอดไฟแบบเดิม จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกินไฟน้อยลง ซึ่งปัจจุบันหากใช้หลอดไฟ LED 3 วัตต์ แทนหลอดไส้ 25 วัตต์ จะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 80% เลยทีเดียว


4. หลอดไฟ LED แข็งแรงทนทาน

          หากใช้หลอดไฟธรรมดา เราอาจต้องเปลี่ยนหลอดอยู่บ่อยครั้ง เพราะหลอดขาดบ้าง แก้วด้านนอกของหลอดไฟเปราะแตกบ้าง แต่สำหรับหลอดไฟ LED จะมีคุณภาพมากกว่า เรียกได้ว่าคุ้มค่า สมราคา เนื่องจากตัวหลอดไฟ LED สามารถทนต่อแรงกระเทกได้มากกว่า จึงติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยไม่เกิดผลกระทบหรือความเสียหายตามมา


5. หลอดไฟ LED เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

          หลอดไฟทั่วไปจะมีสารปรอทอยู่ภายใน ซึ่งสารปรอทนี้เป็นมลพิษกับสิ่งแวดล้อม ต้องระมัดระวังในการทิ้งขยะ แต่หากเป็นหลอดไฟ LED จะไม่มีสารพิษ เราสามารถทิ้งถังขยะที่บ้านเราได้อย่างปลอดภัยทั้งกับตัวคุณและสิ่งแวดล้อม



หน้า: [1] 2 3 ... 42






















































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า