ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจสุขภาพเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis)  (อ่าน 174 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 234
  • โพสประกาศฟรี , ลงประกาศฟรีออนไลน์, เว็บประกาศฟรี
    • ดูรายละเอียด
ตรวจสุขภาพเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis)
« เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2024, 13:16:26 น. »
ตรวจสุขภาพเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis)

เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส พบได้บ่อยในคนทุกวัย พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบได้ประปรายตลอดปี

เนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว จึงนิยมเรียกว่า โรคตาแดงระบาด ซึ่งมักพบระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคม โดยอาจพบระบาดภายในบ้าน ตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน ที่ทำงาน ค่ายทหาร เป็นต้น


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มไวรัสอะดิโน (adenovirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดย่อย ๆ

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 3 และ 7) ทำให้มีไข้และการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับคอหอย เรียกว่า ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ (pharyngoconjunctival fever) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ ขันน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นต้น) ที่แปดเปื้อนเชื้อ และยังอาจติดต่อแบบเดียวกับคอหอยอักเสบ (ไอ จาม หรือสัมผัสถูกสิ่งคัดหลั่งในช่องปากของผู้ป่วย) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 8, 19 และ 37) ทำให้มีการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับกระจกตา และมีลักษณะระบาดได้รวดเร็ว เรียกว่า เยื่อตาขาวและกระจกตาอักเสบชนิดระบาด (epidemic keratoconjunctivitis/EKC) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ และอาจติดต่อจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน (จากผู้ป่วยที่ลงเล่นน้ำ) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

นอกจากนี้ยังมีไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้ คือ กลุ่มไวรัสพิคอร์นา (picornavirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ ไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 (enterovirus type 70) และไวรัสค็อกแซกกีเอชนิด 24 (coxsackie virus A type 24) ทำให้เยื่อตาขาวอักเสบร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อตาขาว เรียกว่า "Acute hemorrhagic conjunctivitis" ซึ่งพบระบาดได้เช่นกัน ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ มีระยะฟักตัว 1-2 วัน

อาการ

มีอาการตาแดง เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อย อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น

ในรายที่เป็นคอหอยอักเสบร่วมด้วย (ซึ่งพบใน "ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ") จะมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย

ในรายที่มีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย หากเป็นรุนแรงมักมีอาการปวดตาและสายตาพร่ามัว

อาการตาแดงตาอักเสบมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน

ส่วนมากอาการมักจะค่อย ๆ ทุเลาลง และหายขาดภายใน 1-3 สัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ เช่น มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือสายตาพร่ามัว (มองเห็นไม่ชัด) เนื่องจากกระจกตาอักเสบ ซึ่งอาจเป็นนานเป็นสัปดาห์ ๆ ถึงเป็นแรมปี

บางรายอาจมีรอยแผลเป็นที่เยื่อตาขาว หรือการติดกันของเยื่อตาขาวกับลูกตา (symblepharon)

ในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 อาจทำให้เกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน มีอาการแขนขาอ่อนแรงได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก มักพบในคนอายุมากกว่า 20 ปี หลังตาอักเสบ 5 วันถึง 6 สัปดาห์

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

สิ่งตรวจพบที่สำคัญ ได้แก่ อาการตาแดง หนังตาบวม ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต ซึ่งจะเริ่มเป็นข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง

บางรายอาจตรวจพบไข้ (38-40 องศาเซลเซียส) คอหอยแดงเล็กน้อย

บางรายอาจพบมีเลือดออกเป็นจุดเล็ก ๆ จุดใหญ่ ๆ หรือเป็นปื้นแดงที่ใต้เยื่อตาขาว

ในรายที่วินิจฉัยไม่ได้แน่ชัด แพทย์อาจนำของเหลวที่ตา (น้ำตา ขี้ตา) ไปตรวจหาเชื้อ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้พาราเซตามอลแก้ปวดลดไข้ ประคบตาด้วยความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดตา เป็นต้น

ถ้ามีอาการเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาวันละ 3-4 ครั้งเพื่อบรรเทาอาการ

ในรายที่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน (ซึ่งพบได้น้อย) แพทย์จะใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ ทุก 2-4 ชั่วโมง

มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ซึ่งจักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์หรือยาต้านไวรัส อาทิ

    ในรายที่มีการอักเสบของเยื่อตาขาวอย่างรุนแรง หรือมีการอักเสบของกระจกตาจนทำให้สายตามัวลงอย่างมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้โรคเริมที่แฝงอยู่กำเริบได้
    ในรายที่ตรวจพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม จักษุแพทย์จะให้ยาหยอดตาที่มีตัวยาต้านไวรัส (เช่น อะไซโคลเวียร์)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ผู้ป่วยจะมีอาการมากอยู่นานไม่เกิน 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาและหายขาดได้ภายใน 1-3 สัปดาห์โดยการรักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัส มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง หรือมีภาวะแทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

เมื่อมั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ให้การรักษาตามอาการ เช่น

- ถ้ามีอาการปวดตาหรือมีไข้ กินพาราเซตามอล*

- ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา วันละ 3-4 ครั้ง

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามตรากตรำงานหนัก หรือออกกำลังหักโหมเกินไป
    งดใช้คอนแท็กต์เลนส์จนกว่าจะหายดี
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา อาจทำให้ติดเชื้อไวรัสที่มือแล้วแพร่ให้คนอื่น และอาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเนื่องจากมือที่ไม่สะอาด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะอาจมีตัวยาที่ไม่ปลอดภัยหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
    เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ผู้ป่วยควรแยกตัวไม่นอนหรืออยู่ใกล้คนอื่น, ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ ร่วมกับผู้อื่น, ควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ (เพื่อกำจัดเชื้อที่อาจติดที่มือ), ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด และควรหยุดเรียนหรือหยุดงาน พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าไปในที่ที่มีคนแออัด และไม่ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการหายดีแล้ว


ควรไปพบแพทย์/กลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาด้วยตนเองแต่แรก
    มีอาการปวดตารุนแรง ขี้ตาแฉะ มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว หรือมีอาการตาพร่ามัว
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง
    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์   
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หายใจลำบาก เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน ถ่ายอุจจาระดำ คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน (ตาเหลือง) จุดแดงจ้ำเขียว เป็นต้น

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว คอนแทคเลนส์ แว่นตา หมอน แก้วน้ำ จาน ชาม สบู่ ขันน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น) ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา
    ในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ และการเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย และหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีกระจกตาอักเสบร่วมด้วยก็มักจะไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น แผลกระจกตา) แต่อาจเป็นกระจกตาอักเสบแบบเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทย์ให้การรักษาแล้วอาการไม่หายดีใน 3 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดตารุนแรง หรือตาพร่ามัวมากขึ้น ก็ควรปรึกษาจักษุแพทย์

2. เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัสบางชนิด อาจเกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน ทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรง แม้ว่าพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดงระบาด (จากไวรัส) ควรสังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด หากสงสัยควรไปพบแพทย์โดยเร็ว


 























































รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ

smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า