ดอกบัวอบแห้ง: วิธีทำดอกไม้แห้ง มีวิธีการทำอย่างไร การจัดดอกไม้แห้งเก็บเป็นที่ระลึกนั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการเก็บรักษาความทรงจำให้ยังคงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งดอกไม้แห้งนั้นสามารถหาซื้อแบบจัดช่อ จัดในแจกัน หรือจะทำเองก็ได้เช่นกัน ในบทความนี้จะพามาดูกันว่าหากต้องการวิธีทำดอกไม้แห้งจะมีขั้นตอนการทำแบบไหน ถ้าอยากเก็บรักษาและยืดอายุให้ดอกไม้อยู่คงทนมากยิ่งขึ้น ดอกไม้อะไรที่นิยมนำมาทำเป็นดอกไม้แห้ง รวมถึงดอกไม้แห้งซื้อที่ไหนได้บ้าง ตามมาดูกันเลย
วิธีทำดอกไม้แห้ง มีวิธีการทำอย่างไร
สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนดอกไม้สดมาเป็นดอกไม้แห้ง เพื่อยืดอายุให้ดอกไม้ยังคงแลดูสวยงามเมื่อเวลาผ่านไป สามารถเลือกใช้วิธีการทำดอกไม้แห้งได้หลายวิธีดังนี้
1. การห้อยกลับหัวให้ดอกไม้แห้ง
สำหรับวิธีมาตรฐานที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ คือการห้อยช่อดอกไม้กลับหัว แนะนำให้ห้อยไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก แสงแดดเข้าถึง ปล่อยไว้จนกว่าดอกไม้จะค่อย ๆ แห้งสนิท หลังจากนั้นจึงสามารถนำไปประดับตกแต่งใส่แจกัน หรือนำไปประดับตกแต่งได้ตามชอบได้เลย
2. ใช้ไมโครเวฟเพื่อทำให้ดอกไม้แห้งอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ดอกไม้แห้งอย่างรวดเร็ว ดอกไม้แห้งง่าย ใช้เวลาน้อย คือการใช้ไมโครเวฟช่วย วิธีการคือ เตรียมสารดูดความชื้น ดอกไม้ และไมโครเวฟ ตัดแต่งดอกไม้ให้มีก้านสั้น เทใส่ลงภาชนะผสมสารดูดความชื้นให้ท่วมดอกไม้ ตั้งเวลาไมโครเวฟเพียงแค่ 1-2 นาที ก็จะได้ดอกไม้แห้งตามต้องการ
3. การอบแห้งด้วยซิลิกา
วิธีทำดอกไม้แห้งอีกแบบคือ การใช้ทรายซิลิกา (Silica Gel) ซึ่งวิธีนี้จะสามารถคงสภาพของดอกไม้ไว้ได้ดี ทั้งรูปทรงและสีสัน แนะนำให้เลือกซิลิกาที่มีเม็ดเล็กละเอียด เพื่อให้เม็ดซิลิกาสามารถแทรกซึมเข้าไปตามซอกของดอกไม้และกลีบได้อย่างทั่วถึง วิธีทำง่าย ๆ เพียงแค่รองพื้นในภาชนะที่ต้องการทำดอกไม้แห้งให้ทั่ว วางดอกไม้ที่ต้องการลงไป จากนั้นเทซิลิกาทับให้ทั่ว ปิดฝาให้สนิท รอระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน ก็จะได้ดอกไม้แห้งที่ยังคงดูสวยงามและมีความทนทาน
4. การทับให้ดอกไม้แห้ง
เตรียมกระดาษที่มีลักษณะด้านไม่มันวาว จากนั้นนำดอกไม้มาวางเรียงบนกระดาษนำกระดาษอีกใบมาวางกระกบด้านบน แล้วทับด้วยของที่มีน้ำหนักอย่างกล่องใส่ของหรือหนังสือที่มีน้ำหนัก เพียงเท่านี้ก็จะได้ดอกไม้แห้งแล้ว แต่วิธีนี้จะทำให้ดอกไม้แบนลง เหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งลงสมุดบันทึกมากกว่าการนำมาจัดเป็นช่อ
การจัดดอกไม้แห้ง
วิธีทำดอกไม้แห้งใช้เวลากี่วัน?
1. ที่มาและการเติบโตของดอกแอนนีโมนี
ระยะเวลาในการทำดอกไม้แห้งนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการ โดยคร่าว ๆ แล้วสรุปได้ดังนี้
การตากดอกไม้แบบกลับหัว วิธีนี้ใช้เวลาราว 2-4 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของช่อที่นำมาตากกลับหัว ยิ่งช่อเล็กก็จะยิ่งแห้งไว
การใช้ไมโครเวฟ วิธีนี้ทำง่าย สะดวก และสามารถทำให้ดอกไม้แห้งได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น
การอบแห้งด้วยซิลิกา วิธีนี้ก็สะดวกและทำง่ายเช่นกัน โดยถ้าเป็นดอกขนาดเล็ก อาจจะใช้เวลาเพียง 2-4 วัน แต่ถ้าเป็นดอกที่ใหญ่ ก็อาจจะใช้ระยะเวลาในการทำทั้งหมดราว 7-14 วัน
ดอกไม้ที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้ง
แม้จะมีวิธีในการทำให้ดอกไม้แห้ง แต่ก็จะมีประเภทดอกไม้ที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้ง ด้วยคุณสมบัติในการคงสภาพและสีสันให้ยังคงดูสวยงามได้นั่นเอง ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีดอกไม้ชนิดไหนที่นิยมนำมาทำดอกไม้แห้งและสามารถเก็บไว้ได้นานบ้าง
1. ดอกคัตเตอร์ (Cutter)
ดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยลักษณะของดอกที่มีความน่ารัก ทำให้เป็นดอกที่นิยมจัดเข้าช่อ เมื่อทำให้แห้งแล้วจะสามารถเก็บไว้ประดับตกแต่งบ้านได้ แถมยังมีความหมายดี ๆ อย่างความรัก ความภักดี และความอ่อนโยน
2. ดอกกุหลาบ (Roses)
ราชินีดอกไม้ที่มีความหมายสากลในการใช้เป็นสัญลักษณ์แทนใจในการบอกรัก โดยในปัจจุบันนิยมนำดอกกุหลาบมาอบแห้งแบบซิลิกา เนื่องจากสามารถคงรูปลักษณ์ของตัวดอกไว้ได้อย่างยาวนาน อีกทั้งยังสามารถคงรูปทรงและสีสันได้เหมือนดอกกุหลาบสดอีกด้วย
3. ดอกสแตติส (Statice)
อีกหนึ่งประเภทของดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดเข้าช่อบ่อย ๆ เพราะดอกนี้เมื่อแห้งแล้ว ก็ยังสามารถคงสภาพและสีสันสดใสไว้ได้เหมือนเดิม โดยดอกสแตติสมีทั้งสีม่วง ขาว ชมพู เหลือง เป็นอีกหนึ่งประเภทดอกไม้ที่มอบความรู้สึกสดชื่น สดใส และสวยงาม
4. ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea)
ดอกไฮเดรนเยียเป็นดอกทรงพุ่ง มีหลากหลายสีสันทั้งม่วง ชมพู ขาว ฟ้า มาพร้อมรูปทรงสวยงาม แม้จะเป็นดอกไม้สดก็มีความทนทานสูง จึงนิยมนำมาทำเป็นดอกไม้แห้งจัดใส่แจกันเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อใช้ประดับตกแต่งตามสถานที่หรือพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องการเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันบ่อย ๆ